เมื่อวันที่ 20 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลื่นซัดหอยกะพงมากองเกยตื้นอยู่ที่บริเวณชายหาดปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูลนับ 1,000,000 ตัวกองยั๊วะเย๊ะความยาวกว่า 1 กิโลเมตรหลังจากที่ก่อนหน้านี้คลื่นลมในทะเลอันดามันมีความสูงกว่า 2-5  เมตรซึ่งเป็นที่ฮือฮาของประชาชนที่พบเห็นอันเนื่องปรากฏการณ์ธรรมชาติลักษณ์นี้ในพื้นที่แห่งนี้ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่เผยว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหลังจากคลื่นลมในทะเลอันดามันสงบชาวประมงต่างพากันมาเก็บหอยกะพงไปขายเพื่อสร้างรายได้

น.ส.ฮาหวา วะฮะ ครูโรงเรียนละงูพิทยาคม ต.ละงู  แนะนำว่า สามารถนำหอยกะพงไปทำอาหารได้หลายชนิดอย่าง เช่น ต้มลวกจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือ ผัดกระเพรา ทั้งนี้หอยกะพงขายได้ในราคาถุงละ 30 บาท หรือ กิโลกรัมละ 30-50 บาท สำหรับ หอยกะพง  เป็นหอยสองฝาที่อาศัยในพื้นท้องทะเลโดยเฉพาะในโคลน มีเปลือกเปราะบาง สีเขียวอมม่วง หรือ ดำ ทั้งนี้ปรากฏการณ์ในครั้งนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสตูลนั้นล่าสุดยังคงขยายวงกว้างไปในหลายตำบลทั้งนี้พื้นที่ที่ประสบภัยหนักสุดเป็นพื้นที่อยู่ติดริมลำคลอง ริมสายน้ำสำคัญๆ อย่าง  ลำคลองละงู  ลำคลองฉลุง และลำคลองมำบัง  แต่อย่างก็ตามศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสตูลรายงานสถานการณ์อุทกภัย และวาตภัยในพื้นที่โดยระบุว่า ทั้ง  7 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.ควนโดน อ.เมืองสตูล  อ.ท่าแพ อ. มะนัง  อ.ละงู อ.ควนกาหลง และ อ.ทุ่งหว้า รวม 20 ตำบล 125 หมู่บ้าน 5,605 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่ประการใด.