เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน “ประสานพลัง ประสานใจ” โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนจิตอาสา ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

โดยนายกฯ กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ เพราะทราบตั้งแต่ต้น ทุกคนที่อยู่หน้างานโดยตรงได้เข้าช่วยเหลือทันที นี่คือสิ่งที่คนหน้างานตรงนั้นเข้าไปก่อน ถือว่าช่วยประชาชนได้อย่างมากมาย ฉะนั้นวันนี้ขอให้ทุกคนมีข้อมูลอะไรที่อยากจะบอกทางรัฐบาลให้ซัพพอร์ต ทุกคนพร้อมและยินดีที่จะช่วยเหลือ มีอะไรที่อยากให้รัฐบาลปรับปรุงตรงไหนขอให้แชร์กัน เดินเข้ามาบอกได้เลยว่าทำอะไรให้ประชาชนบ้าง ประชาชนต้องการอะไรบ้าง ขอให้แชร์กันแบบเปิดพื้นที่

จากนั้นนายกฯ พูดคุยหารือร่วมกับคณะจิตอาสา 12 องค์กร และภาคเอกชน โดยตัวแทนสมาคมเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย กล่าวขอบคุณนายกฯ พร้อมมีข้อเสนอจากที่ได้ลงพื้นที่และคุยกับชาวบ้านในระยะต่อไปเฟสที่ 3 คือการป้องกันปัญหาในระยะยาวไม่ให้น้ำเข้าแม่สายอีก อยากเสนอให้มีการทำเขื่อนริมแม่น้ำแม่สาย เพื่อให้รถวิ่งริมแม่น้ำได้ เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในครั้งหน้า 

นายกฯ ล้อมวงคุยจิตอาสา-เอกชน หลังเกิดวิกฤติน้ำท่วมเชียงราย

ด้านทีมตอบโต้ภัยพิบัติ RDAT มูลนิธิสยามนนทบุรี กล่าวว่า ขอสะท้อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำไมเราไม่มีการรายงานตัวแบบออนไลน์เป็นกู้ภัยแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานต่างๆ อยู่ในแอปพลิเคชัน ให้รัฐบาลเป็นแกนกลางสั่งการ ซึ่งจะทำงานได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาไปรายงานตัวกับอำเภอ จังหวัด แล้วนั่งรองาน เพราะการรายงานใช้เวลาครึ่งวัน กว่าจะได้เข้าพื้นที่ทำงาน ดังนั้นควรจะมีแอปพลิเคชันกลาง ในการจ่ายงานและการขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งวันนี้เทคโนโลยีสามารถทำทุกอย่างได้แล้ว ควรจะพัฒนาในเรื่องนี้ และหากมีแล้วก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ

ขณะที่ประธานมูลนิธิเพชรเกษม กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเป็นตัวกลางในการขับเคลื่อนกลุ่มอาสาสมัคร เนื่องจากพวกเราเป็นแขนขาของรัฐบาลอย่างแท้จริง และสิ่งหนึ่งที่อยากได้ โดยเป็นการขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาล คือให้ยกเว้นภาษีองค์กรการกุศล เนื่องจากเป็นองค์กรที่ทำเพื่อประเทศชาติ โดยให้รัฐบาลพิจารณาว่าองค์กรไหนเข้าเกณฑ์ และขอให้ช่วยประสานงานแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในการที่ทีมอาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือประชาชน จึงขอให้บูรณาการ อาจจะทำเป็นเลนให้เจ้าหน้าที่ 1 เลน และขอให้ดูแลอาสาสมัครที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่และเกิดอุบัติเหตุ

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่นายกฯ เน้นย้ำคือการช่วยเหลือชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญ และได้รับรายงานเรื่องโคลน จึงได้ประสานงานกองทัพไทย และ 3 เหล่าทัพ ให้เข้าไปดำเนินการหน้างาน ซึ่งบ้านเรือนที่โดนโคลนจำนวน 500-1,000 หลังคาเรือน 

ส่วนนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า ตนทราบการติดขัดเรื่องการสื่อสาร เราจะเข้าไปช่วยอย่างเต็มที่ เชื่อว่าทั้งทรูและเอไอเอส จะรีบเข้าไปศึกษาจุดยุทธศาสตร์และนำสัญญาณเข้าไป ส่วนเรื่องแอปพลิเคชันก็มีความพร้อม หากทางภาครัฐ ประชาสังคม จะนำไปใช้งานสื่อสารได้อย่างเป็นทางการ โดยแจ้งประสานงานมาได้ 

ขณะที่กู้ภัยคนแม่สาย กล่าวว่า การแจ้งเตือนของทางผู้ใหญ่บ้านไม่ทั่วถึง บางครั้งแจ้งเตือนบ่อยจนชาวบ้านไม่แน่ใจว่าน้ำจะขึ้นจริงหรือไม่ จนไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะน้ำมาจริงๆ เราตั้งตัวไม่ทัน ขณะเดียวกันทีมงานกู้ภัยในอำเภอแม่สาย เครื่องมือไม่ครบ ในวันที่น้ำมา เราเข้าหน้างานอย่างเต็มกำลัง แต่ช่วยเหลือได้แค่ 40% ไม่มีเจ็ตสกี ไม่มีอุปกรณ์ที่จะอพยพคนออกมาทันที ต้องรออีก 1 วัน

จากนั้นนายกฯ กล่าวสรุปในช่วงท้ายว่า ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามา เชื่อว่าทุกคนทุกหน่วย ได้ทำแต่ละส่วนต่างกันไป แต่ทุกส่วนคือสิ่งสำคัญ สิ่งที่รัฐบาลตั้งใจคืออยากให้ความทุกข์ของประชาชนสั้นที่สุด วันนี้เรามาร่วมกันด้วยความที่เรามีจิตใจตรงกัน นั่นคือจิตใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนคนไทยด้วยกัน ฉะนั้นไม่มีใครมากไปกว่ากันหรือน้อยไปกว่ากัน ทุกคนตั้งใจที่จะช่วยจริงๆ แน่นอนภาคเอกชนทั้งหมดที่ช่วยส่งของยังไม่ขาดสาย ทั้งเรื่องสุขาและอีกหลายบริษัทที่มาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ น้ำใจของคนไทยยังอยู่ทั่วทั้งแผ่นดินไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานกระแสความห่วงใยมาตั้งแต่วันแรกๆ ถือว่าอย่างน้อยๆ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น แต่คนไทยยังรักกันและยังโชคดี 

ต่อมานายกฯ ได้ออกมายังบริเวณเสาธงหน้าตึกสันติไมตรี เพื่อรับมอบสิ่งของอุปโภค บริโภค อาหารแห้ง จากภาคเอกชน อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) มูลนิธิเอสซีจี SC ASSET กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ก่อนเดินเยี่ยมชมรถลำเลียงอุปกรณ์ของเหล่าทัพ พร้อมให้กำลังใจกำลังพลของเหล่าทัพที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ก่อนนายกฯ เดินมายังสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และกล่าวขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอีกครั้งว่า ขอบขอบคุณทุกความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและจิตอาสา ที่ทำให้เห็นว่าประเทศเรา แม้มีภัยภิบัติแต่ยังโชคดีที่คนไทยมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รัฐบาลจะทำหน้าที่ประสานพลังให้ประชาชนทั้งประเทศ วันนี้ที่เรามาร่วมกัน เป็นภารกิจที่ทุกคนร่วมใจ และอยากเยียวยาให้ผู้ที่ประสบภัยตอนนี้ มีความทุกข์ให้น้อยที่สุด.