เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีคลิปวีดีโอเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในคลิปจะเห็นว่ามีเด็กนักเรียนชาย 2 คนชื่อด.ช.ไก่ (นามสมมุติ) และ ด.ช.ไข่ (นามสมมุติ) กำลังถูกรุ่นพี่บังคับให้คุกเข่า นั่งหันหน้าเข้ากำแพง จากนั้นรุ่นพี่ก็เข้ามาเตะด.ช.ไข่อย่างเต็มแรง หลังจากที่ด.ช.ไข่ลุกขึ้น รุ่นพี่ก็ได้มาจับหลังด.ช.ไก่ จับลักษณะคล้ายว่าจะเตะบริเวณไหนดีให้เจ็บที่สุด ซึ่งคลิปนี้ก็จะเห็นว่าด.ช.ไก่ พยายามยกมือบอกกับรุ่นพี่ว่า “ให้ผมกราบก็ได้ อย่าทำผมเลย” แต่รุ่นพี่ก็ไม่ยอม ได้มีการเตะเข้าที่บริเวณหลังของด.ช.ไก่ อย่างเต็มแรง ถึง 2 ครั้ง จากนั้นก็มีรุ่นพี่ ม.2 ซึ่งเป็นผู้หญิง เข้ามาตบที่บริเวณใบหน้าของ ด.ช.ไก่ อีก 2 ครั้ง คนละ 1 ที ทำให้ฟันกรามข้างขวาของ ด.ช.ไก่ โยกและหลุดในเวลาต่อมา

จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบ แม่ ด.ช.ไก่ และด.ช.ไข่ เปิดใจกับทีมข่าวทั้งน้ำตา และขอให้ทีมข่าวช่วยเป็นกระบอกเสียงขอความเป็นธรรมให้ลูกชายของเขาทั้ง 2 คน โดย น.ส.เอ (นามสมมุติ) แม่ของ ด.ช.ไก่ และน.ส.บี (นามสมมุติ) เป็นแม่ของด.ช.ไข่ ทั้ง 2 เล่าว่า มาทราบว่าลูกถูกทำร้ายร่างกาย คือวันจันทร์ ที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากครูประจำชั้นได้ส่งมาให้ดู ว่าลูกชายได้ถูกทำร้ายร่างกาย ทั้ง 2 จึงรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นสอบถามเรื่องราวกับลูกชาย ได้ เล่าว่า ขณะกำลังเดินเล่นพูดคุยถึงเรื่องแฟนเก่า ของด.ช.ไข่ ซึ่งไปเป็นแฟนกับรุ่นพี่ ม.1 หลังจากนั้นมีคนมาได้ยิน เลยเข้าใจว่าทั้ง 2 คนนินทา ทำให้รุ่นพี่ม.1 เรียกให้ทั้ง 2 คนไปพบบริเวณหลังโรงเรียน ปรากฏว่ารุ่นพี่มากันเป็น 10 คน บังคับให้คุกเข่า หันหน้าเข้ากับกำแพงศาลเจ้า และทำร้ายตามคลิป

น.ส.เอ บอกด้วยว่า เสียใจมากเพราะว่าลูกชายได้พยายามร้องขอรุ่นพี่บอกว่าให้ผมกราบเท้าก็ได้ อย่าทำร้าย แต่รุ่นพี่ก็ไม่ยอมจะเอาเรื่องให้ได้ แล้วสุดท้ายก็ถูกรุ่นพี่ทำร้าย ที่แย่กว่านั้นคือหลังจากโดนเตะแล้วก็ยังถูกรุ่นพี่ซึ่งอยู่ ม.2 ซึ่งมีลักษณะรูปร่างที่ใหญ่มาก ตบเข้าบริเวณที่ใบหน้า ถึง 2 ครั้ง จนทำให้ฟันกรามของน้องหลุด รู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก เพราะว่าน้องมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้าซีกขวาอยู่แล้วจากอุบัติเหตุ เพราะฉะนั้นพอถูกอะไรกระทบกระเทือนที่ใบหน้า ก็จะเจ็บหนัก อย่างเช่น ฟันที่หัก ซึ่งปกติแม่บอกว่าไม่เคยให้น้องออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬากับเพื่อนเพราะที่บริเวณใบหน้าซีกขวายังร้าวอยู่

จากนั้น ทั้งน.ส.เอ และน.ส.บี ได้เข้าไปที่โรงเรียนพูดคุยกับอาจารย์ฝ่ายปกครองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางอาจารย์ฝ่ายปกครองก็ได้เรียกคู่กรณี มาพูดคุยและมาขอโทษ ซึ่งตอนแรกทางคุณครูจะให้พวกตนเซ็นต์ว่าเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทซึ่งไม่ยอม เพราะมองว่ามันไม่ใช่เหตุทะเลาะวิวาทกัน และเป็นเรื่องที่ทางโรงเรียนควรมีมาตรการในการป้องกันปัญหา มากกว่าการมาให้เด็กขอโทษกัน เพราะหากดูจากคลิปวีดีโอที่เกิดขึ้น เป็นลักษณะการทำร้ายร่างกาย ที่เหมือนกับเป็นการรับน้องของนักเรียนอาชีวศึกษาที่เคยเป็นข่าว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นกับเด็กประถมศึกษา ที่สำคัญอยากจะให้ ครอบครัวของน้องที่ก่อเหตุ รับทราบเรื่อง และมาพูดคุยเจรจากับทางครอบครัวผู้เสียหายด้วย