เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของเคสผู้ป่วย ที่ทำเอาโลกออนไลน์ต่างตกใจไปตามๆกัน หลัง นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงเพจ “Arak Wongworachat” ระบุว่า “ก้อนไขมันยักษ์ที่ต้นคอ ขนาดกว่า 30 เซนติเมตร ทุกข์ทรมานมานานกว่า 10 ปี”

ชายสูงวัย อายุกว่า 87 ปี ให้ประวัติว่ามีก้อนเนื้อที่ต้นคอส่วนหลัง ค่อยค่อยโตขึ้น ระยะหลังโตเร็วขึ้นกว่าเดิม จนไม่สามารถนอนหงายได้ตามปกติ เงยศรีษะขึ้นได้น้อยลง เคยไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล ในขณะที่ก้อน ยังโตไม่มาก ญาติๆปรึกษากันแล้ว หากเป็นก้อนไขมันธรรมดา ที่ไม่ใช่มะเร็ง ก็ไม่อยากผ่าตัด โดยเห็นว่ามีอายุมากแล้ว แต่ในระยะห้าปีถัดมา ก้อนโตเร็วขึ้นมากกว่าเดิม จนใช้ชีวิตประจำวัน ของคนสูงอายุ ที่มักจะใช้เวลา นอนอยู่บนเตียง มากกว่า เริ่มมีความทุกข์ทรมาน ใช้ชีวิตไม่ปกติ ญาติไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตามสิทธิ์บัตรทอง เห็นควรส่งต่อไปโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ญาติจึงขอมาปรึกษาที่แผนกศัลยกรรมโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

ได้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง และแก้ไขความพิการ ผิดรูป เมื่อตรวจดูแล้วโดยละเอียด เห็นว่าไม่ว่าก้อนจะเป็น มะเร็งหรือไม่ใช่มะเร็งก็ตาม ควรจะได้รับการผ่าตัดก่อนเป็นลำดับแรก ทีมแพทย์ได้อธิบายถึงความเสี่ยงของผู้สูงอายุในระหว่างดมยาสลบและการดูแลหลังผ่าตัด ผู้ป่วยและญาติเข้าใจจึงตัดสินใจผ่าตัดในเวลาต่อมา หลังผ่าตัดก้อนเนื้อมีน้ำหนักกว่า 4 กิโลกรัม เนื่องจากก้อนโตมากเมื่อผ่าตัดก้อนออกมาแล้วจะมีผิวหนังส่วนเกินเป็นจำนวนมาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องตกแต่งแผลผ่าตัดให้เข้ารูปอย่างดีที่สุด หลังผ่าตัดเจ็ดวัน แผลที่เป็นรอยย่นเริ่มกลับเข้ารูปเกือบจะปกติ

“ทั้งผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ดีใจ มีความสุข กันถ้วนหน้า ผู้ป่วยบอกว่ารู้อย่างนี้ผ่าตัดตั้งนานแล้ว มีก้อนผิดปกติไม่ว่าที่ส่วนใดของร่างกาย ไม่ควรละเลยทิ้งไว้เนิ่นนาน จนเกินไป การรักษาตั้งแต่เริ่มต้น จะง่ายกว่าปล่อยทิ้งไว้ให้ลุกลาม”..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Arak Wongworachat