แต่ยังถือว่าน้อยมาก เพราะผู้คนที่สนใจความยั่งยืนยังคงเป็นคนส่วนน้อยของทุกประเทศ นี่คือทำไมโลกของเราจึงเร่งสู่ภาวะโลกเดือดอย่างรวดเร็ว ถ้าเทียบกับงานมหกรรมอื่น ๆ เช่น Motor Show ที่นำรถใหม่ ๆ มาแสดงกัน จะมีผู้เข้าชมถึง 1.6 ล้านคน มากกว่างานด้านความยั่งยืนกว่า 5 เท่าทั้ง ๆ ที่เก็บค่าเข้าชมด้วย

คอลัมน์ด้านความยั่งยืนก็เช่นกัน แม้จะเห็นฐานผู้อ่านเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับข่าวซุบซิบดารา ข่าวดราม่าการเมือง หรือข่าวอาชญากรรม

ถ้าเจาะกลุ่มผู้ที่สนใจด้านความยั่งยืน แม้ยังจะมีจำนวนน้อย แต่เป็นคนคุณภาพ คนที่ใส่ใจรักษ์โลก คนที่อยากหาวิธีทำให้โลกนี้ดีขึ้น เป็นผู้นำทางความคิด เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่องค์กรของพวกเขาต้องเรียนรู้เรื่องความยั่งยืนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก หน่วยงานราชการและองค์กรต่าง ๆ ที่มีหน้าที่โดยตรงกับการขับเคลื่อน SDG ในแต่ละข้อ และอีกพวกหนึ่งคือคนรุ่นใหม่ นิสิต นักศึกษา นักเรียน ที่ต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง ก่อนที่พวกเขาจะพบกับความหายนะจากโลกที่ไม่ยั่งยืน ที่คนรุ่นก่อนก่อไว้

อะไรคือเสน่ห์ของงาน SX หลายท่านบอกว่า เป็นโอกาสที่จะได้พบปะผู้คนที่ทำงาน หรือสนใจในงานด้านความยั่งยืน คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นคนดี และมักจะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างสนุกสนานในงานตลอด 10 วัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคม สิ่งแวดล้อม หรือเศรษฐกิจ เป็นโอกาสที่จะสร้างและขยาย Network ในการขับเคลื่อนประเด็นความยั่งยืนต่าง ๆ ทุก ๆ ปีมักจะเกิดสิ่งดี ๆ เมื่อคนดี ๆ
ได้มาพบปะพูดคุยกัน
นอกจากเป็นเวทีที่ได้พบปะผู้คนในวงการแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่กำลังร้อนแรง ฟังแนวโน้มของ Trend ด้านความยั่งยืนจากทั่วโลก ที่สำคัญเรื่องราวต่าง ๆ มาจากปากของคนที่ทำงานจริง เล่าเรื่องทั้งความสำเร็จ และล้มลุกคลุกคลาน ผ่านปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ งาน SX ถือเป็น Platform ที่เชื่อมโยงผู้คนที่รักความยั่งยืน ค่อย ๆ ขยายจำนวนเครือข่ายเพิ่มขึ้นทุกปี และปีนี้สู่นานาชาติ

งาน SX 2024 ปีนี้ ผมมีคำถามในใจมากมาย ว่า มีอะไร wow ๆ ที่แตกต่างจากปีที่แล้วบ้าง เรื่องราวที่พวกเราพูดคุยกันในเวทีต่าง ๆ ในปีที่ผ่านมามีใครไปทำอะไรต่อบ้าง มีอะไรที่ทำสำเร็จแล้ว มีอะไรที่ติดขัดเป็นอุปสรรค ในระหว่างปีมี Movement อะไรที่สำคัญ ๆ ในแต่ละเรื่อง ปีนี้มีคนสนใจความยั่งยืนเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน ด้วยปัจจัยอะไร

ผมยังสงสัยอีกว่าในแต่ละ Zone มีอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ Better Living คุณภาพชีวิตเราดีขึ้นได้จริงไหม เมื่อโลกเราเข้าสู่ภาวะโลกเดือด เมื่อเราได้แง้มประตูสู่ขุมนรกอเวจีแล้ว Better Community มีชุมชนไหนบ้างที่ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น พวกเขามีอะไรให้เรียนรู้บ้าง Better Me เราทำตัวกันดีขึ้นบ้างไหม มีกี่คนที่คำนวณ และควบคุมคาร์บอนส่วนตัวแล้วบ้าง ทำไมเราทำ ทำไมเราไม่ทำ อะไรคือแรงกระตุ้น Better World โลกเราดีขึ้นจริงไหม เห็นมีแต่ข่าวร้าย ๆ จากภาวะโลกเดือด ความขัดแย้งจากภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจโลกขาลง และเรื่อง SEP Inspiration เราลืมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปแล้วหรือยัง มีคนรุ่นใหม่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันจนเกิดผลดีอย่างไร คนรุ่นเก่าที่พรํ่าสอนให้ท่องจำ สามห่วง สองเงื่อนไข ใส่ผ้าพื้นเมืองให้ดูดี แต่ไม่นำไปปฏิบัติจริง ได้เปลี่ยนพฤติกรรมหรือยัง

คำถามมากมาย รอคำเฉลยอยู่ในแต่ละ Zone และทุกปีเราจะรอชิมอาหารยั่งยืนอร่อย ๆ จากเชฟสร้างสรรค์ ใน SX Food Festival รอซื้อสินค้าชุมชนที่คัดสรรมา เป็นสินค้า Low Carbon เป็น Circular Economy หรือ BCG ที่มาจากทั่วประเทศ ใน SX Marketplace และสำหรับคนที่มีลูกหลานจะพามาที่ SX Kids Zone ที่มีเกมให้เล่น และเรียนรู้สนุก ๆ ปลูกฝังวิถีชีวิตใหม่ ให้รักษ์โลก สร้างนิสัยยั่งยืน ที่จะเติบโตไปพร้อมกับการผลักดันเป้าหมาย SDG

สำหรับงานด้านความยั่งยืนที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ ผมยังคาดหวังที่จะเห็นผู้จัดคำนวณคาร์บอน และตั้งเป้าหมายการลดคาร์บอนที่ท้าทาย โดยสามารถคำนวณจากการใช้พลังงาน การสร้างบูธนิทรรศการ ร้านค้า อาหาร และการเดินทางของทุกคนที่มางาน ซึ่งมีฐานข้อมูลจากปีที่ผ่านมา นำมาคำนวณไม่ยาก แล้วนำมาวางแผนการลดคาร์บอนต่าง ๆ ให้ชัดเจน เช่น กำหนดมาตรฐานการสร้างบูธที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุหมุนเวียน ใช้วัสดุแบบยั่งยืน ลดการใช้ไวนิลพิมพ์แล้วทิ้ง การจัดการ Second Life ของบูธต่าง ๆ ให้เปลี่ยนรูปเป็นของใช้ที่มีประโยชน์ ไม่เป็นกองขยะเหลือทิ้ง ถ้าคิดดี ๆ จะลดคาร์บอนจากสิ่งเหล่านี้ได้มาก และ ถ้ามีโครงการชดเชยคาร์บอนให้ผู้เข้าชมงานปีนี้ทั้ง 5 แสนคน หรือบางส่วน จะยิ่งดีมาก อยากได้ยินว่าผู้จัดงานชดเชยคาร์บอนให้ผู้มาชมงาน โดยสนับสนุนโครงการปลูกป่า และนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของไทยที่มีมาตรฐาน จะสร้างฝืนป่าให้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะลดหายนะจากนํ้าป่าไหลหลาก นํ้ามาก นํ้าแล้งได้อย่างยั่งยืน สร้างมาตรฐานใหม่ของการจัดงานนิทรรศการที่ยั่งยืน ที่จัดกันตลอดทั้งปี

คำถามเหล่านี้ยังคงรอคำตอบ และคงจะได้รับคำเฉลย เมื่อได้ไปพบปะพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในงาน SX Sustainable Expo 2024 ปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 27 กันยายน ถึง 6 ตุลาคม นี้

พบกันนะครับ ชวนเพื่อน ๆ มาชมงานกันเยอะ ๆ มาทำให้ความยั่งยืนเป็นวิถีชีวิตใหม่ ไม่ใช่แค่คำสวยหรูท่ีเขียนไว้ตามป้ายโฆษณา ช่วยกันผลักดัน Event ดี ๆ แบบนี้ให้เป็น Movement สู่ความยั่งยืน … เปลี่ยนตัวเรา เปลี่ยนโลก.