ประเทศไทย นับเป็นประเทศผู้ส่งออก “สินค้าแป้งมันสำปะหลัง” ครองอันดับ 1 ของโลกมาอย่างยาวนาน เป็นหนึ่งในสินค้าเกษตรดาวเด่นที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้น ซึ่งความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลัง ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความหลากหลาย เช่น อุตสาหกรรมกระดาษ วัสดุก่อสร้าง สิ่งทอ อาหารแปรรูป และพลาสติกชีวภาพ

หากพูดถึงอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังของไทย “บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จํากัด” หรือเอสดับเบิลยูไอ (SWI) ถือเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอันดับต้นๆ ของไทย ด้วยระบบการผลิตส่งออกแป้งมันสำปะหลังคุณภาพสูง ให้ความสำคัญต่อการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยระบบการบริหารคุณภาพตามมาตรฐานสากล ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม การผลิตที่ทันสมัย และการบริหารห่วงโซ่การผลิตได้ต่อเนื่องทั้งปี ทำให้สินค้าและการบริการ ของ SWI ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เกิดเป็นรายได้ ที่หมุนเวียนกลับมายังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในทุกภาคส่วนของธุรกิจส่งผลให้เกิดการพัฒนาศักยภาพเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

นอกจากการมุ่งมั่นการพัฒนากระบวนการผลิตแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ SWI ให้ความสำคัญอย่างมาก คือ แนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพปลูกมันสำปะหลัง โดยใช้การพัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม พัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ท ฟาร์ม ร่วมกับชาวไร่มันสำปะหลัง ต้นน้ำ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการปรับปรุงดิน การเพาะปลูกระบบน้ำหยดสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน การใช้โดรน และดาวเทียมในการวิเคราะห์ข้อมูลการเพาะปลูก เพื่อสร้างความพร้อมสู่สังคมแห่งอนาคต

ทั้งนี้การช่วยเหลือของ SWI จะให้บริการเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรชาวไร่ในราคามิตรภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมพันธุ์ใหม่สำปะหลังสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการปอเทืองคนละครึ่ง เนื่องจากดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสภาพเป็นดินทราย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ต้นพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ดี จึงต้องเติมปุ๋ยพืชสด โดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว เพื่อเพิ่มธาตุอาหารแก่พืชที่ ซึ่งทาง SWI จะให้เกษตรกรจ่ายค่าเมล็ดปอเทืองคนละครึ่งกับบริษัท โดยบริษัทจะตรวจวิเคราะห์ธาตุอาหารในดินก่อน และหลังหว่านปอเทือง

นอกจากนี้ยังมีโครงการแจกเปลือกดินฟรี เพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ปรับปรุงและบำรุงดิน เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตได้ รวมทั้งยังช่วยปรับโครงสร้างดินให้ดีขึ้น ทำให้ดินร่วนซุยไม่แน่น ระบายอากาศได้ดี และยังช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดกักเก็บน้ำของดินทรายและดินเนื้อหยาบได้ และมีการแจกสารชีวภัณฑ์ฟรี เพื่อลดการใช้สารเคมีในการดูแลแปลงมันสำปะหลัง และพืชอื่นๆ และส่งเสริมพันธุ์สำปะหลังสายพันธุ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร เช่น การพัฒนามันสำปะหลังข้าวเหนียว (WAXY) เพื่อให้ได้แป้งมันสำปะหลังชนิดใหม่ , พัฒนาสายพันธ์ พิรุณ 4 มีจุดเด่น เช่น มีปริมาณไซยาไนด์ในหัวสดต่ำในทุกสภาพแวดล้อม , รสชาติอร่อย เนื้อสัมผัสนุ่มกว่าพันธุ์ห้านาที ไร้เสี้ยน , เป็นพันธุ์รับประทาน และพันธุ์อุตสาหกรรม มีปริมาณแป้งสดในหัวเพิ่มขึ้น

บริการเทคโนโลยีในราคามิตรภาพ เช่น ให้บริการโดรนฉีดพ่น พ่นปุ๋ยทางใบ ฮอร์โมน สารแทนนิน ไคติน สะดวกรวดเร็ว ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต , รถล้อสูง ช่วยลดแรงงานคนในการทำรุ่น ลดเวลาการทำงาน ลดการใช้สารเคมี ลดต้นทุนและผลผลิตเพิ่มขึ้น

เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม SWI มุ่งมั่นในการบริหารจัดการกับผลพลอยได้และกากของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต เริ่มตั้งแต่ น้ำเสียได้ถูกนำไปผลิตเป็นไบโอแก๊ส ไฟฟ้า ความร้อน และความเย็น ใช้เป็นพลังงานทดแทนในโรงงาน ส่วนน้ำที่ผ่านการบำบัดได้นำไปปรับปรุงคุณภาพจนสามารถส่งกลับเข้าไปหมุนเวียนใช้ในกระบวนการผลิตได้อีกครั้ง เปลือกและดินจากการล้างมันสำปะหลังได้ถูกนำไปแปรรูปให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อแจกจ่ายกลับไปยังเกษตรกรในท้องถิ่น อีกทั้งยังสร้างระบบการควบคุมสภาพแวดล้อมภายในโรงงานไม่ให้ส่งผลกระทบหรือรบกวนต่อชุมชนโดยรอบทั้งในด้านกลิ่น เสียง และมลภาวะ

“ SWI มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากมันสำปะหลังเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังของไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน บนตลาดการค้าโลกและสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่ธุรกิจของกลุ่มบริษัทในเครือ สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จํากัดในทุกมิติ”