เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสาน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีกำชับกระทรวงต่างๆ ให้ดูว่าสถานการณ์พายุในสัปดาห์นี้และสัปดาห์ถัดไปจะเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เตรียมรับมือ อาทิ ภาคใต้ที่ฝนจะมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นายกฯ ขอให้เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายชั่วโมงตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ตกค้างในพื้นที่ประสบภัยในภาคเหนือตอนบน และภาคอีสานตอนบน ขณะที่หลายกระทรวง ได้เสนอขอรับงบประมาณรวมกันประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับมาตรการเยียวผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกำชับเรื่องการลดขั้นตอนทางเอกสารที่สมัยก่อนต้องเอาเอกสารไปเสนอ แต่ตอนนี้จะให้ส่วนราชการ ทั้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงไปดูและสรุปให้รวดเร็ว ถ้าบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ จะรับเงินเยียวยา 230,000 บาท