เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ห้องกรุงธน 3 ชั้น 5 อาคาร 2 สำนักเทศกิจ เขตธนบุรี นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวในการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ครั้งที่ 6 ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ติดตามการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ค้าปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าและการขายหรือจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือสถานสาธารณะ พ.ศ. 2567  


ส่วนพื้นที่ทำการค้าที่เอกชนมอบพื้นที่ให้ กทม. เพื่อเป็นที่สาธารณะ ให้พิจารณาจัดระเบียบพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันสอดคล้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทำการค้า รวมถึงกวดขันผู้กระทำผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า สำรวจพื้นที่เสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน ตลอดจนตรวจสอบซากยานยนต์จอดทิ้งในพื้นที่สาธารณะ

ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้รายงานผลการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ในพื้นที่ กทม. ปัจจุบันคงเหลือพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผัน 68 จุด ส่วนพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผันขณะนี้คงเหลือพื้นที่ 381 จุด ผู้ค้า 10,986 ราย โดยผู้ค้าต้องหยุดทำการค้าทุกวันจันทร์ และร่วมกันล้างทำความสะอาดพื้นที่ทำการค้า ซึ่งผู้ค้าในพื้นที่ทำการค้าจุดผ่อนผันต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดพื้นที่ทำการค้าฯ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ค้าต้องมีรายชื่อตรงตามบัญชี ผู้ค้าในพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผันให้ยึดตามกฎหมาย แต่ในระหว่างดำเนินการ ให้นำหลักเกณฑ์ฯ ที่กำหนดมาบังคับใช้โดยอนุโลม โดยเฉพาะขนาดแผงค้าและการตั้งวางจะต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย

ส่วนการดำเนินงานจัดการซากยานยนต์จอดทิ้งในพื้นที่ กทม. จนถึงปัจจุบัน ตรวจพบซากยานยนต์ 1,478 คัน เจ้าของเคลื่อนย้าย 1,225 คัน สำนักงานเขตเคลื่อนย้าย 253 คัน เปรียบเทียบปรับ 57 คัน และขายทอดตลาด 80 คัน และการตรวจจับผู้กระทำผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจยยบนทางเท้า ผ่านระบบ BMA AI CAMERA มีผู้กระทำผิด 2,892 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 420 ราย เปรียบเทียบปรับ 2,472 ราย เป็นเงิน 1,529,250 บาท (ข้อมูลตั้งแต่ ต.ค. 66-13 ก.ย. 67 หลังปรับเป็นพินัย)