เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสปสช. กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการอนุมัติงบประมาณกลางจำนวน 5,924 ล้านบาท จากที่เสนอ 7,100 ล้านบาท สำหรับโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่” ว่า  สำหรับงบฯ ดังกล่าว แม้ว่าจะได้รับน้อยกว่าที่เสนอไป แต่คิดว่า สามารถนำมาใช้ได้อย่างเพียงพอ ทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ และปัญหาค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลรัฐ โดยจะนำมาเติมเต็มจากก่อนหน้านี้ที่ลดค่ารักษาความความรุนแรงของโรค เหลือประมาณ 7,000 บาทต่อหน่วย จากเดิมที่จ่ายอยู่ที่ 8,350 บาทต่อหน่วย โดยงบฯ ก้อนนี้จะสามารถจ่ายได้เท่าเดิม ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาของโรงพยาบาลได้

เมื่อถามว่าการได้รับอนุมัติน้อยกว่าที่ขอ จะทำให้พอต่อการแก้ปัญหาหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าววว่า ยืนยันว่าเราเสนอไปตามหลักวิชาการ แต่เป็นข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ ส่วนหนึ่งอาจมองว่ายังไม่สิ้นปีงบประมาณ จริงๆ โดยหลักต้องปิดงบฯ ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่นี่เป็นการใช้ประมาณการบางส่วนในอนาคต อย่างไรก็ตาม รมว.สาธารณสุข ได้มีการสั่งการให้ประชุมบอร์ดด้วยในวันที่ 23 ก.ย.นี้ เป็นวาระด่วนที่สุด เนื่องจากเป็นงบกลาง จึงต้องเร่งโอนเงินให้ทันก่อน 30 ก.ย. โดยสำนักงานฯ จะต้องดำเนินการเกลี่ยส่วนต่างๆ ที่อาจจะเหลือ ซึ่งเรามีอยู่ 16 หมวด และหนึ่งในนั้นคือหมวดผู้ป่วยใน อย่างไรก็ตาม หากหมวดต่างๆ มีเหลือ มีขาดอย่างไร ที่เหลือก็จะเอางบกลางเข้ามา

เมื่อถามถึงการแก้ปัญหาระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งงบกลาง นพ. จเด็จ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือต้องบริหารงบฯ ที่ได้มาแต่ละปีให้ดีก่อน เพียงแต่งบกลางที่ได้มาครั้งนี้ มาจากผลของการปฏิบัติงานจริง และประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งสปสช.ทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า งบฯ ที่ขอไปเพราะเรามีผลงานเพิ่มขึ้น และขอบคุณหน่วยบริการต่างๆ ที่ให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้น

“สปสช. เวลาตั้งงบประมาณ เราก็ไม่ได้บอกว่าเราตั้งถูกต้องทุกปี บางครั้งเราก็ถูกตัด ถูกทอนงบฯ ลงไป จึงต้องมีการทำตัวเลขอยู่ตลอด อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่างบฯ พอ แต่คงไม่มีประเทศไหนที่จะบอกว่าให้เงินไม่อั้น สิ่งสำคัญคือเสนอข้อมูลที่เป็นจริง ถูกต้อง รัฐบาลก็จะดำเนินการให้” เลขาธิการสปสช.กล่าว.