สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงนิวเดลี เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ว่าอินเดียได้ยกเลิกราคาขั้นต่ำสำหรับการส่งออก “ข้าวบาสมาติ” เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรซึ่งประสบปัญหาหนี้สิน และต้นทุนที่สูงขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายข้าวบาสมาติเกรดพรีเมียมในต่างประเทศ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยวข้าวฤดูกาลใหม่
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 อินเดียกำหนดราคาขั้นต่ำหรือราคาส่งออกขั้นต่ำ (เอ็มอีพี) ไว้ที่ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (ราว 39,853 บาท) และต่อมาได้ปรับลดลงเหลือ 950 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (ราว 31,550 บาท)
หลังจากอุปทานเริ่มฟื้นตัว ผู้ส่งออกเรียกร้องให้รัฐบาลปรับลดหรือยกเลิกราคาขั้นต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่า เกษตรกรจะไม่ต้องแบกรับสต็อกข้าวจำนวนมาก เมื่อพืชผลฤดูกาลใหม่มาถึง ภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา อินเดียมีแนวโน้มปรับลดราคาขั้นต่ำสำหรับการส่งออกข้าวบาสมาติ “การตัดสินใจยกเลิกเอ็มอีพีจะช่วยให้อินเดียส่งออกข้าวบาสมาติได้ในปริมาณมาก และทำให้เกษตรกรของเราได้รับผลตอบแทนที่ดี” นายซาติส โกเอล ประธานสมาคมผู้ส่งออกข้าวแห่งอินเดีย กล่าว
อินเดียและปากีสถานเป็นผู้ปลูกข้าวบาสมาติเพียง 2 ราย ซึ่งพยายามส่งเสริมข้าวเกรดพรีเมียมในลักษณะเดียวกับแชมเปญจากฝรั่งเศส หรือชาดาร์จีลิงจากเทือกเขาหิมาลัย
อย่างไรก็ตาม ข้าวบาสมาติไม่ถูกบริโภคอย่างแพร่หลายในอินเดีย และรัฐบาลไม่ได้สำรองข้าวสายพันธุ์นี้ไว้ เหมือนดั่งข้าวเกรดทั่วไป
ตอนนี้ ข้าวบาสมาติจากอินเดียมีราคาประมาณ 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน (ราว 23,247 บาท) มีตลาดต่างประเทศขนาใหญ่หลายแห่งรองรับ ดังนั้น การยกเลิกราคาขั้นต่ำทั้งหมดถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผล “การตัดสินใจในวันนี้ จะทำให้สามารถกลับมามีส่วนแบ่งในตลาดโลกได้อีกครั้ง” โกเอลย้ำ
อินเดียส่งออกข้าวบาสมาติจำนวน 4-5 ล้านตันไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น อิหร่าน อิรัก เยเมน ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และสหรัฐ รวมไปถึงยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของข้าวชนิดนี้
นอกจกานี้ อินเดียยกเลิกราคาส่งออกขั้นต่ำของหัวหอม เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่องของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย สร้างความโกรธแค้นให้กับหมู่เกษตรกรมานาน
นักวิจารณ์เชื่อว่า รัฐบาลควรเรียกคะแนนนิยมคืนจากเกษตรกร ก่อนการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติของรัฐต่าง ๆ เช่น รัฐหรยาณา และรัฐมหาราษฏระ หลังพรรคพรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของโมดี พ่ายแพ้ในเขตเลือกตั้งชนบท จากการเลือกตั้งทั่วไป ระหว่างวันที่ 19 เม.ย.-1 มิ.ย. ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
