เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พ.ต.อ.ไกรฤกษ์ งามศรีอ่อน ผกก.สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.ถนัด เหล่าประสิทธิ์ รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.วรพงษ์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท. ก่อเกียรติ บุญปลอด รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุเมธ สวัสดี สวป.  พ.ต.ต.สวัสดิ์ ทัลวัลดิ์ สว.สส. ร่วมกับ คณะครู-อาจารย์ โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา พร้อมด้วยผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มาลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน

ทั้งนี้จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 เวลา ประมาณ 00.56น.ต่อเนื่องถึงวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมาศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งว่า มีวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์จำนวนหลายคัน จากพื้นที่ หน้าปั๊ม ปตท.หน้าเมือง มุ่งหน้าบ้านหน้าทอนด้วยเสียงท่อที่ดังสร้างความเดือนร้อนให้กับชาวบ้านที่กำลังหลับพักผ่อน ศูนย์วิทยุ สภ.เกาะสมุย ได้แจ้งให้สายตรวจออกตรวจสอบจนสามารถจับกุมผู้ขับขี่ได้จำนวน 2 คน พร้อมตรวจยึดรถจักรยายนต์จำนวน 2 คัน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกทำการติดตามกลุ่มที่เหลืออย่างต่อเนื่อง ต่อมาได้พบกลุ่มรถจักรยานยนต์ประมาณ 11 คันจอดอยู่ที่บริเวณชายหาดลิปะน้อย เมื่อเด็กทั้งหมดเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างทิ้งรถวิ่งหลบหนี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามผู้ที่หลบหนีมาดำเนินคดี จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่กลุ่มวัยรุ่นแข่งรถจักรยานยนต์ พร้อมตรวจเช็กทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ทุกคัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อที่อยู่ของผู้ครอบครองรถจักรยานยนต์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปตามที่บ้าน ของวัยรุ่นแข่งรถได้พูดคุยกับผู้ปกครอง และได้ทราบว่า เป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา ที่ได้รวมตัวจับกลุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ท่องเที่ยวและแข่งกันในตอนกลางคืน โดยรถจักรยานยนต์บางคันได้มีการแต่งรถเพื่อแข่งขันกัน แต่เมื่อนักเรียนกลุ่มนี้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจเลยเกิดความกลัวจึงวิ่งหลบหนี

จึงได้เชิญครูโรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา พร้อมด้วยผู้ปกครองนักเรียนกลุ่มดังกล่าว มาทำข้อตกลงร่วมกันเนื่องจากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้โรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียนขอความร่วมมือให้หลังเวลา 22.00น. ขอให้ดูแลบุตรหลานไม่ควรออกนอกเคหะสถานถ้าไม่มีเหตุจำเป็น แต่ทางผู้ปกครอง ครูได้ขอโอกาส ให้เด็กกลุ่มนี้ได้มีโอกาสกลับตัวเป็นคนดี จึงได้ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน โดยระบุในข้อตกลงว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าเกิดขึ้นครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายทั้งผู้ปกครองและบุตรหลานที่ขับรถซิ่งเสียงดัง โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น และจะต้องเสียค่าปรับทุกข้อหาในอัตราโทษสูง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เด็กๆ นำท่อไอเสียเดิมมาเปลี่ยน พร้อมทำลายท่อไอเสียที่เสียงดังให้อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้งานได้อีก เพื่อเป็นการป้องกันและปรามกลุ่มวัยรุ่นต่างๆในเกาะสมุยให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด