เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมหลายหลายพื้นที่ในขณะนี้ ว่า ได้กำชับไปยังตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจพื้นที่ โดยเฉพาะตำรวจน้ำ ในการบูรณาการร่วมกับ สภ.ในพื้นที่ และตำรวจตระเวนชายแดน เพิ่มความถี่ในการออกตระเวนตรวจตราป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังการก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้งจังหวัดเชียงราย ,นครพนม ,หนองคาย หรือพื้นที่อื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่คนร้ายหรือแก๊งแมวน้ำ มักจะฉกฉวยโอกาสกระทำผิดก่อเหตุซ้ำเติมพี่น้องประชาชน หากจับกุมได้ให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินการไปยังตัวการ ผู้ร่วมขบวนการทุกราย ดำเนินการให้เด็ดขาดและถึงที่สุดทุกมิติ

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนถึงโทษของการกระทำผิดในช่วงภัยพิบัติที่เป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชน จะต้องรับโทษสูงกว่าการลักทรัพย์โดยปกติ ซึ่งการลักทรัพย์ธรรมดา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท แต่ในช่วงภัยพิบัติ หรือการลักทรัพย์ในสถานการณ์น้ำท่วม ซ้ำเติมประชาชน จะมีโทษสูงขึ้น เป็นเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (2) บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดลักทรัพย์ในที่อุทกภัย หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใดๆ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงร่วมกับจิตอาสา ส่วนราชการ ภาคประชาชน มูลนิธิ กู้ภัยต่างๆ ลงพื้นที่ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมต่อเนื่องทั้งมิติการอพยพ ช่วยเหลือ มอบสิ่งของถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อหมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง.