นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอยู่ 13.5 ล้านคน มีคนที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์ บัตรประชาชนเสร็จแล้วกว่า 11 ล้านคน และยังไม่ได้มีบัญชีพร้อมเพย์บัตรประชาชนกว่า 2 ล้านคน จึงขอให้ไปรีบสมัครพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับเงินตามกำหนด แต่หากทำไม่ทัน จะต้องรอรับเงินในรอบถัดไป แต่ช้าสุดจะต้องไม่เกินสิ้นปีนี้ ไม่เช่นนั้นเงินจะถูกโอนกลับเข้าคืนรัฐ

สำหรับช่องทางสมัครพร้อมเพย์ผูกบัตรประชาชน ทำได้ 3 ช่องทาง คือ 1.ไปติดต่อกับสาขาธนาคารที่มีบัญชีไว้ 2.ผ่านตู้เอทีเอ็ม 3.ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ส่วนการโอนเงินให้ผู้พิการ กรมบัญชีกลางมีบัญชีอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการโอนเข้าบัญชีตามกำหนดวันที่ 25 ก.ย. นี้

”เมื่อมีการโอนเงินสดเข้าไปแล้ว ผู้ใช้ก็สามารถถอนออกมาใช้ได้เลยซึ่งมั่นใจว่าเม็ดเงินกว่า 14.5 แสนล้าน ซึ่งถือเป็นเงินที่ก้อนใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เคยมีมาที่ใส่ลงไป เมื่อรวมกับกองทุนวายุภักษ์ ที่จะเปิดขายเข้าไปกระตุ้นส่งเสริมตลาดทุนอีกมากกว่าแสนล้าน จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจในปลายปี กลับมาคึกคัก และเชื่อมั่นว่าจีดีพีทั้งปี จะโตได้ถึง 3%“

ด้านนางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ขณะนี้กรมมีความพร้อม 100% ที่จะโอนเงินสด 10,000 บาท เข้าบัญชีกลุ่มเปราะบางตามนโยบายของรัฐบาล โดยล่าสุด กรมฯ ได้นำรายชื่อผู้ได้สิทธิไปตรวจสอบข้อมูลแล้ว มีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 14.4 ล้านคน แบ่งเป็นผู้พิการ 2 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการที่ไม่ตัดกลุ่มผู้พิการออกไปอีก 12.4 ล้านคนเศษ ซึ่งกรมมั่นใจว่าการโอนเงินที่จะเริ่ม 25 ก.ย. นี้ จะไม่มีปัญหา เพราะมีการแบ่งรอบการโอนไว้แล้ว โดยยอดโอน 4-5 ล้านคนต่อวัน เป็นปริมาณที่รองรับ แต่หลังจากนี้ ขอให้คนที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ให้ไปทำโดยด่วน เพราะการโอนจะเข้าบัญชีพร้อมเพย์เท่านั้น