น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงรายนั้น ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด วธ. สำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อนำข้อมูลมาจัดทำแผนช่วยเหลือส่งสิ่งของไปช่วยเหลือและเร่งดำเนินการบูรณะซ่อมแซมอยากพบโบราณสถานเสียหาย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากกรมศิลปากรเบื้องต้นว่า ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงรายยังไม่พบโบราณสถานได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากโบราณสถานส่วนมากอยู่ในวัดซึ่งได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์แล้ว ประกอบกับวัดดูแลรักษาอย่างดี ซึ่งกรมศิลปากรได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติการเฝ้าระวังและรายงานให้ทราบทันที หากโบราณสถานเกิดความเสียหาย

ส่วนกรณีโบราณสถานวิหารวัดเสาหิน อ.เทิง จ.เชียงรายนั้น สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ รายงานว่าโบราณสถานวิหารวัดเสาหิน ภายหลังระดับน้ำท่วมพื้นที่โดยรอบเข้าสู่สภาวะปกติ ผลการสำรวจไม่พบการเคลื่อนตัวหรือยุบตัวของโครงสร้างเสาหินบนพื้นวิหาร เนื่องจากในอดีตโบราณสถานแห่งนี้เคยได้รับการบูรณะมาก่อนและได้มีการเสริมโครงสร้างฐานรากเสาหินที่ตั้งอยู่ไว้ทุกต้น ส่วนภาพที่มีชิ้นส่วนของเสาหินบางต้นล้มนอนอยู่นั้น เป็นเพียงการจัดกองไว้เพื่อรอการบูรณะในครั้งต่อไป อย่างไรก็ตามสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ จะเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบโบราณสถานในพื้นที่เกิดอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า ได้มอบนโยบายให้กรมศิลปากรและหน่วยงานที่ดูแลติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงกำชับให้กรมศิลปากรดำเนินการตามแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้กำหนดไว้ ดังนี้ 1.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 2.รับฟังข้อมูลจากอาสาสมัครฯ ของกรมศิลปากรที่อยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3.หลังจากน้ำลดให้เข้าพื้นที่สำรวจตรวจสอบสภาพและความเสียหายโดยด่วน 4.วางมาตรการลดความเสี่ยงของโบราณสถานช่วงฤดูฝน หากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องครั้งต่อไป เช่น ปกป้องน้ำไม่ให้ท่วมเข้าไปในอาคารโบราณสถานอีก และ 5.หากพบความเสียหายต่ออาคารโบราณสถานให้รีบดำเนินการเร่งด่วน