เมื่อวันที่ 12 ก.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยผลการจับกุม นายธีรภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ชาว อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 706/2567 ลงวันที่ 9 ก.ย. 67 โดยชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์, ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. จับกุมได้ที่บริเวณที่จอดรถบ้านเอื้ออาทรสวนพูลพัฒนา แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากผู้เสียหายเป็นผู้หญิงอายุ 70 ปี มาพบพนักงานสอบสวน สภ.คูคต ว่า ได้มีข้อความจากเฟซบุ๊ก ชื่อว่า “สรรเสริญ อภิชาติ” มาพูดคุยกับผู้เสียหาย บอกว่าเป็นทหารหมดสัญญาที่ทำอยู่ในประเทศเยเมน จะส่งเงินดอลลาร์มาให้ แต่ให้ผู้เสียหายเสียภาษีให้กับรัฐบาลไทยก่อน ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารตนเองไปยังบัญชีธนาคารผู้ต้องหา (บัญชีม้า) จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 15,000 บาท, ครั้งที่ 2 จำนวน 8,000 บาท รวมเป็นเงิน จำนวน 23,000 บาท เมื่อโอนเงินแล้ว ต่อมาไม่สามารถติดต่อกับบุคคลดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกให้โอนเงิน จึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดี ต่อมาได้ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวได้

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่า ประมาณปี 66 ตนได้เจอเฟซบุ๊กจ้างเปิดบัญชี แต่จำชื่อเฟซไม่ได้ เพราะลบไปแล้ว เนื่องด้วยขณะนั้นเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงได้ตกลงเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี ผู้จ้างได้ส่งโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมทางพัสดุเอกชน มาให้ผู้ต้องหาลงติดตั้งและลงทะเบียนแอปพลิเคชันผูกกับบัญชีธนาคารทั้ง 3 บัญชี จากนั้นจึงได้ส่งบัญชีธนาคารพร้อมกับบัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือ กลับไปให้ผู้จ้างทางพัสดุเอกชน โดยได้รับค่าตอบแทน 3,000 บาท

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพโรแมนซ์สแกม หลอกลวงให้รัก หว่านล้อมด้วยคำพูดทำให้หลงรัก ให้ความหวังว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป มุกเดิมๆ ของแก๊งโรแมนซ์สแกม ส่วนใหญ่แฝงตัวในแอปพลิเคชันหาคู่ต่างๆ บนโลกออนไลน์ จนคนในสังคมรู้ทัน จากการสร้างโปรไฟล์ปลอมที่ดูดีน่าเชื่อถือ หลอกว่าเป็นนักธุรกิจ มหาเศรษฐี และออกกลอุบายต่างๆ มาหลอกเพื่อเอาทรัพย์สิน เหยื่อแก๊งโรแมนซ์สแกมมักเป็นคนโสด หย่าร้าง เป็นม่าย เนื่องจากความเหงา อาจเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง ขาดการดูแลอย่างใกล้ชิดจากบุตรหลาน เป็นสาวใหญ่ที่แสวงหารักแท้ หรืออาจจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ระแวดระวังตนเอง มองโลกในแง่ดีเกินไป เชื่อคนง่ายจนตกเป็นเหยื่อ ขอให้ท่านมีสติในการใช้สื่อออนไลน์ “ไม่เชื่อ ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่โอน”