นายวิมล ปั้นคง รองผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือไอทีดี กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไอทีดีได้จัดทำผลงานวิจัย การประเมินศักยภาพและส่งเสริมการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย หรือเอ็มเอสเอ็มอีของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน และอุตสาหกรรมแฟชั่น เพื่อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาล

โดยโดยพบว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ไทยเป็นผู้นำการผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนและอันดับ 10 ของโลก ปี 65 ผลิตรถยนต์ประมาณ 1.9 ล้านคัน มีผู้ผลิตในห่วงโซ่อุปทานและเอสเอ็มอีมากกว่า 2,500 ราย มีการส่งออก 41,116 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ปัจจุบันได้เผชิญความท้าทายจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ความเสียเปรียบการแข่งขันด้านต้นทุน การกีดกันการค้า

ทั้งนี้ จึงมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ให้รัฐร่วมมือกับเอกชนและสถาบันการศึกษาจัดทำฐานข้อมูลด้านการตลาด จัดแสดงสินค้าในและต่างประเทศ และตั้งศูนย์แสดงสินค้าในต่างประเทศ มุ่งเน้นตลาดรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในประเทศกำลังพัฒนา เช่น แอฟริกาและอินเดีย การเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต เสริมสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์ พัฒนามาตรฐานคุณภาพของผู้ประกอบการ และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการผลิตและปรับตัวสู่ยานยนต์ไฟฟ้า

“การเสริมสร้างความสามารถทางเทคโนโลยี สนับสนุนการลงทุนในนวัตกรรมและพัฒนาบุคลากรเพื่อตอบสนองต่อเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต เช่น แบตเตอรี่ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (เอดีเอเอส) ตลอดจนสนับสนุนนโยบายสิทธิประโยชน์ ปรับเปลี่ยนนโยบายการสนับสนุนทางการเงิน เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การค้ำประกันสินเชื่อ และสิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้”