เมื่อเวลา 04.30น.วันที่ 12 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยได้ขึ้นไปบนตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นเวลา 05.30 น.นายกรัฐมนตรี สักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า  ก่อนนายกฯสักการะศาลพระภูมิ และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยนายกฯได้เตรียมเครื่องสักการะมาเอง เป็นชุดผลไม้  9 อย่าง อาทิ องุ่นทับทิม แอปเปิ้ล กล้วยไข่ สาลี่ ส้ม ทับทิม และแก้วมังกร เป็นต้น โดยมีพราหมณ์เป็นผู้ทำพิธี

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการจัดโต๊ะสีขาว แยกวางต่างหากที่หน้าศาลพระภูมิ  โดยบนโต๊ะมีการจัดวางชุดตุ๊กตาช้างม้าเบญจรงค์คู่ พร้อมพวงมาลัย และพานดอกบัว  2 พาน  ขณะที่บนศาลพระภูมิได้มีการนำชุดตุ๊กตาช้างม้าเบญจรงค์คู่ และตุ๊กตานางรำชุดใหม่มาวางเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลของนายกฯในวันเดียวกันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดี  ซึ่งพฤหัสบดีเป็นวันเกิดของนายกฯ  ทั้งนี้ การไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลเป็นการไหว้ส่วนตัว  แต่กำหนดการเดิมในวันที่ 13 ก.ย.ยังคงมีอยู่ เวลา 07.30 น.นายกฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามภายหลัง นายกฯสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบเสร็จเรียบร้อยแล้วนายกฯ ได้เข้าไปนั่งในตึกไทยคู่ฟ้าด้วย ก่อนเดินทางมายังอาคารรัฐสภา

ต่อเวลา 08.30 น.นายกฯ เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถเบนซ์ รุ่น Vito Tourer สีบรอนซ์ เลขทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพมหานคร เข้าอาคารรัฐสภาเป็นครั้งแรก เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศาลพระสยามเทวาธิราช  พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระภูมิชัยมงคล และศาลตายายประจำรัฐสภา เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเข้าแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา  จากนั้นนายกฯ สักการะพระราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7)  โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม  นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม  น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสส.พรรคเพื่อไทย ร่วมสักการะด้วยก่อนขึ้นไปห้องประชุมรัฐสภาเพื่อเตรียมแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา.