จากกรณีที่เกิดเหตุดินจากเขานาคเกิดถล่มลงมาทับบ้านเรือประชาชนเสียหายกว่า 50 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 13 ศพ ในปฏัก ซอย 2, ปฏักซอย 4และปฏักซอย8 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุสังคมมุ่งเป้าไปที่วัดพระใหญ่ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ดินสไลด์ลงมา เนื่องจากพบว่าจุดเริ่มต้นของดินสไลด์อยู่ห่างจากลานจอดรถที่ทางวัดสร้างขึ้นมาใหม่ไม่เกิน 5 เมตร และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ต่อมาเมื่อวันที่ (30ส.ค.) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ติดป้ายตรวจยึดพระใหญ่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต พื้นที่ 5 ไร่เศษ จำนวน 3 จุด

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11ก.ย.67) พ.ต.ท.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน สว. (สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ได้ดำเนินการแจ้งข้อหา “มูลนิธิพระพุทธมิ่งมงคล ศรัทธา 45” โดย นายสุพร (สงวนนามสกุล) ประธานมูลนิธิ ในฐานะนิติบุคคล และ นายสุพร (สงวนนามสกุล) ในฐานะส่วนตัว โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน

“…ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใดครอบครองป่าที่ถูกแผ้วถาง ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือ กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้ รับอนุญาต

ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลาย หรือเป็นเหตุให้เกิดการทำลาย หรือทำให้สูญหาย หรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น การบุกรุกพื้นที่ป่าซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ให้รัฐเท่ากับจำนวนพื้นที่ที่ถูกบุกรุก ตามที่คิดคำนวณค่าเสียหายของรัฐทั้งหมด ของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหาย…”

โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา.