อุณหภูมิการเมืองไทยร้อนแรงดุเดือดอีกครั้ง หลังเปิดโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้การนำของหญิง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ซึ่งยังไม่ทันจะได้เริ่มทำงานอย่างเป็นทางการ ก็มีเรื่องให้ต้องปาดเหงื่อกันแล้ว

เพราะถูกสังคมจับตา ฝ่ายค้านติดตามตรวจสอบ และยังมีบรรดา “นักร้องการเมือง” จองกฐิน จับจ้องทุกย่างก้าวของรัฐบาล เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็มาจากการที่ “รัฐบาลแพทองธาร” ใช้สูตรผสมจัดตั้งสุดพิสดาร แกนนำรัฐบาลอย่าง “พรรคเพื่อไทย” เดินเกมยุทธการทุบพรรคการเมืองอื่นให้แตก แล้วสอยเสียงสส.ของพรรคเหล่านั้นมาเสริมกำลังค้ำยันบัลลังก์ของนายกฯหญิงคนใหม่ ส่งผลให้กลายเป็นที่จับตาของประชาชน

ขณะที่การฟาสต์แทร็คของหัวหน้ารัฐบาลนั้นเป็นที่รู้กันชัดแจ้งว่ามาจากการส่งเสริมและสนับสนุนจากบารมีของผู้เป็นพ่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ยังมีแรงเสียดทานจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ ครม.สืบสายโลหิต เพราะส่งมอบโควตารัฐมนตรีกันเองให้คนในครอบครัว มีทั้ง “พ่อ-ลูก” และ “พี่-น้อง” แปะมือเปลี่ยนตัวกันขึ้นนั่งเก้าอี้เสนาบดี เล่นแร่แปรธาตุด้านกฎหมาย หวังหลบหลีกการตกเป็นเป้าของเหล่านักร้องเรียน

แต่กลับหนีไม่พ้นถ้อยคำวิพากษ์วิจารณ์ภาพลักษณ์ของ ครม.ชุดนี้ว่ามีทั้งครอบงำ ครอบครอง และครอบครัว

แม้ประชาชนพร้อมให้โอกาสรัฐบาลเดินหน้าสร้างผลงาน แต่บรรดารัฐมนตรีรวมถึงนักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลก็พึงต้องระมัดระวังพฤติกรรมและการกระทำต่างๆของตัวเองเช่นกันไม่ให้ล้ำเส้นหรือสุ่มเสี่ยงสร้างปัญหาใดๆตามมา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเกิดเหตุการณ์ที่ 3 รัฐมนตรีป้ายแดงแห่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้ง“นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรฯ และ 2 รมช. “อัครา พรหมเผ่า – อิทธิ ศิริลัทยากร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในจ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” อดีตรมว.เกษตรฯ และ “อรรถกร ศิริลัทธยากร” อดีตรมช.เกษตรฯ และสส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ร่วมคณะไปด้วย

แต่ไฮไลท์อยู่ที่ “ร.อ.ธรรมนัส” นั่งหัวโต๊ะร่วมกับ 3 รมต. สอบถามสถานการณ์น้ำ และพูดฝากงานแก่รัฐมนตรีทั้งสามด้วย ซึ่งกรณีนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเหมาะสม และอย่าลืมกันว่า “ร.อ.ธรรมนัส” ยังมีตำแหน่งเป็นสส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ จึงนำพาให้เกิดอีกหนึ่งประเด็นร้อน

เมื่อ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 ที่ห้ามสส.และสว.แทรกแซงข้าราชการหรือการปฏิบัติงานของหน่วยงานราชการ มาจับผิดการกระทำของ “ร.อ.ธรรมนัส” ในเหตุการณ์ดังกล่าว

แม้ที่ผ่านมา “นพ.วรงค์” พยายามพูดและตรวจสอบรัฐบาลอยู่บ่อยครั้ง ก็ไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่ในการออกโรงล่าสุดเปิดหน้าชนกับ “ร.อ.ธรรมนัส” จนเกิดการตอบโต้กันไปมา ต่อด้วยการฟ้องร้องดำเนินคดี

หากพลพรรคฝ่ายผู้มีอำนาจยังกระทำการใดๆอย่างเหิมเกริม เมินเฉยกฎกติกาและกฎหมาย อาจนำอันตรายครั้งใหญ่ไปสู่ตัวหัวหน้ารัฐบาลและคณะให้ต้องปิดฉากก่อนเวลาอันควร