สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่าข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเตือน โลกต้องเปลี่ยนทิศทางเพื่อหลีกเลี่ยงอนาคต ซึ่งอาจเต็มไปด้วยการยกระดับทางการทหาร, การปราบปราม, ข้อมูลเท็จ, ความไม่เท่าเทียมที่ทวีความรุนแรง และการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ลุกลาม

เติร์ก กล่าวเปิดการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) ที่นครเจนีวา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยย้ำว่า โลกกำลังอยู่บนทางแยก เราต้องเลือกระหว่างเส้นทางปัจจุบันที่อาจพาเราไปสู่ ‘ดิสโทเปีย’ ซึ่งเป็นอนาคตที่เลวร้าย หรือเลือกที่จะพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้นเพื่อโลกและมนุษยชาติ หลังความขัดแย้งอุบัติขึ้นตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ ฉนวนกาซา, ยูเครน และซูดาน เขาย้ำว่า รัฐต้องไม่ยอมรับการละเลยกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากตอนนี้ ดูเหมือนโลกจะเพิกเฉยต่อการล่วงล้ำเส้น

“สำหรับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นไปแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ ผมขอย้ำให้ผู้มีสิทธิทุกคนคำนึงถึงปัญหาที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบ้าน, การศึกษาของเยาวชน, สุขภาพ และงาน, ความยุติธรรม, ครอบครัวและคนที่คุณรัก, สิ่งแวดล้อม, การปราศจากความรุนแรง, การจัดการการทุจริต และการที่เสียงของคุณถูกรับฟัง” เติร์กกล่าว และเน้นว่าทั้งหมดถือเป็นปัญหาสิทธิมนุษยชน และขอให้พิจารณาว่า พรรคหรือผู้สมัครคนใด จะสามารถทำงานเพื่อสิทธิของทุกคน

ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนเตือนด้วยว่า ชีวิตวิถีใหม่ไม่ควรเต็มไปด้วยการยกระดับทางการทหาร หรือการกดขี่, การควบคุม และสงครามที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พร้อมให้หยุดการเผยแพร่ข่าวปลอม, ปกปิดข้อเท็จจริง และให้อำนาจในการตัดสินใจต่อประชาชน

ขณะเดียวกัน เติร์กวิจารณ์ถึงการใช้ถ้อยคำรุนแรง และการแก้ปัญหาอย่างส่ง ๆ เพื่อเปิดทางให้แก่คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนควรระมัดระวัง เสียงของผู้มีอำนาจที่กึกก้องจนสามารถกลบเกลื่อนความจริง และสร้างภาพลวงตา.

เครดิตภาพ : AFP