เมื่อเวลา10.40น.  วันที่ 10ก.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากวิกฤตอุทกภัยอย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ ซึ่งเสนอโดยนายเศรณี อนิลบล สว. และนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.

ทั้งนี้ นพ.เปรมศักดิ์ นำเสนอญัตติโดยตอนหนึ่งระบุว่า  เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา มีชาย 3 คนบอกตนว่า ทำไมไม่แก้ไข ทำไมต้องศึกษา หากศึกษาไม่ต้องตั้งกมธ.  ตนไม่บอกว่าเป็นใคร แต่ส่วนสูงนั้น สูงกว่าตน ทั้งนี้ไม่ได้กลัว แต่อย่ามารุม ขอให้มาทีละคน ที่ถามตน ตนรู้สึกงง ทั้งที่ญัตตินี้ได้รับการบรรจุวาระโดยประธานวุฒิสภาแล้ว

“วันเสาร์-อาทิตย์ ก่อนมีการประชุม มีพล.อ.คนหนึ่งโทรศัพท์หาผม ซึ่งไม่ใช่พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่1 บอกให้ผมล้มเลิก ผมบอกล้มเลิกอย่างไร เพราะพุธที่แล้วมีการคุยกันเมื่อสัปดาห์แล้วบอกว่ามีการ ขอกรรมาธิการ 30 คน ขอสว. 20 คน เป็นคนนอก 10 คน และส่วนของสว.ขอเป็นกลุ่มใหญ่ 15 คนและกลุ่มเล็ก 5 คน แบบนี้ต้องมาขอเหมือนเป็นขอทาน จนบรรลุข้อตกลงว่า สว. 20 คน มาจากบ้านใหญ่ 15 คน และสว.เสียงส่วนน้อย 5 คน ใครว่าไม่ใช่ในการประชุมห้อง 428 ขอให้ค้าน หากผมพูดความเท็จให้ฟ้าผ่าร่างเป็น 2 ซีก ผมยินดีตายกลางสภา ผมขอให้พิสูจน์กันหน่อยว่าทำไมกลับไปกลับมา แม้ผมไม่ใช่นายพลแต่รักษาสัจจะ และพล.อ.คนนี้ยังบอกว่าหากอภิปรายขอให้จบ ไม่ต้องตั้งกรรมาธิการ ผมงง” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

ทำให้พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ลุกขึ้นอภิปรายว่า ตนเป็นคนที่โทรหา นพ.เปรมศักดิ์ เอง และได้อธิบายว่า เมื่อตั้งกมธ.สามัญประจำวุฒิสภาแล้ว ต่อไปอยู่ในอำนาจหน้าที่ จะขัดแย้งกันหรือเป็นภาระหรือไม่ ทั้งนี้ในวันที่ 12 – 13 ก.ย.นี้ รัฐบาลจะแถลงนโยบายให้คุยในรัฐสภา ให้ได้ข้อยุติ ได้สาระแล้วนำเสนอในการแถลงนโยบายรัฐบาล เพราะหลายคนเห็นว่าได้ผลไวกว่าจะศึกษาในกรอบเวลา 30 – 120 วัน เพราะศึกษามานานแต่แก้ปัญหาไม่ได้ 

“เพื่อไม่ให้เคลือบแคลงสงสัย พล.อ.คือผมเอง ที่โทรหาหมอเปรมเป็นการปรึกษา ว่ามีหลายคน และควรฟังความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ ขอให้หมอเปรมถอยได้หรือไม่ ผิดถูกหรือไม่ แต่เป็นความจริง” พล.อ.สวัสดิ์ ชี้แจง.