สมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย นำโดยนายณัฐนันท์  จันทร รองประธาน ฯ พร้อมสมาชิก  นำสิ่งของจำเป็น อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน และอื่นๆ ไปมอบให้แก่โรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอปัว และอำเภอภูเพียง รวม 11 โรงเรียน  และถุงยังชีพมอบให้แก่ชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านน้ำลัด และบ้านสบแก่น ตำบลนาปัง อ.ภูเพียง อีก 264 หลังคาเรือน  ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้กำลังใจแก่เด็กนักเรียนและครู และชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา  ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่เป็นอย่างมาก  โดยมี  นายสุทัศน์ จินตเวชศาสตร์ นายอำเภอท่าวังผา  พร้อมด้วยนายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.น่าน  และนายพรชัย นาชัยเวียง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 ร่วมให้การต้อนรับ

และในโอกาสนี้ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยคณะสมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมเดินทางไปให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยในโอกาสไปสังเกตการณ์ กรณีน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่จังหวัดน่าน  พร้อมทั้งขอบคุณสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย และผู้มีจิตอาสาทุกท่านที่ร่วมกันบริจาคสิ่งของและแรงกายในการช่วยเหลือครั้งนี้

โดย นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา  กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดน่านในครั้งนี้ เพื่อสังเกตการณ์กรณีน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่จังหวัดน่าน 3 ประการ  คือ การเตรียมการก่อนเกิดภัย มีการติดตามข่าวสาร แจ้งเตือน ซักซ้อมความเข้าใจ เตรียมการป้องกันความเสียหาย เตรียมพพร้อมอพยพ ฯลฯขณะเกิดภัย เป็นไปตามแผนที่ซักซ้อมไว้หรือไม่  และ หลังเกิดภัย สำรวจความเสียหาย สามารถฟื้นฟูบูรณะ เยียวยา ได้รวดเร็วแค่ไหนเพียงไร

และ ส่วนที่ 2 คือไปให้กำลังใจประชาชน ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ ครู นักเรียน นำความห่วงใยของวุฒิสมาชิกลงไปเยี่ยมประชาชน  และ ส่วนที่ 3 คือไปร่วมกับพี่น้องชาวสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย ที่มาจากจังหวัดต่างๆ ในฐานะที่ผมเคยเป็นผู้นำกลุ่มออฟโรดบุรีรัมย์  รู้จักและร่วมทำกิจกรรมกับชาวออฟโรดทั่วประเทศมาก่อน  จึงมีความผูกพันกันมานาน ชักชวนกันบริจาคสิ่งของที่จำเป็นตามคำร้องขอของโรงเรียนในพื้นที่ไปมอบให้  พวกเราคือจิตอาสาที่ต้องการทำความดีแทนคุณแผ่นดิน แบ่งปันความสุข บรรเทาทุกข์ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  ในประการที่สำคัญคือไม่ไปรบกวนการทำงานของข้าราชการในพื้นที่ เราตระหนักถึงภาระที่หนักหน่วงของท่านในการดูแลช่วยเหลือประชาชน จึงไม่ขอรบกวนแต่ขอเป็นกำลังใจให้ท่านทุกคน

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ การให้ความช่วยเหลือและการส่งต่อกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูชีวิตและจิตใจของผู้ประสบภัย.