เมื่อเวลา 11.10 วันที่ 9 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายเดชอิศมิ์ ขาวทอง รมว.สาธารณสุข เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงสาธารณสุข ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรมช.สาธารณสุข โดยมีนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยข้าราชการกระทรวงสาธาณรสุขให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแลดล้อม ตลอดจนกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และสส.ประชาธิปัตย์ มาร่วมแสดงความยินดีจำนวนมาก

นายเดชอิศมิ์ กล่าวกับข้าราชการว่า “วันนี้มี ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มาหลายคน หลายคนมองภาพของตนก็น่ากลัว สื่อบางแห่งสร้างตัวตนของผมเองว่าน่ากลัว แต่ที่จริงผมเป็นคนน่ารักมาก ไม่น่ากลัวเหมือนที่เป็นข่าว” นอกจากนี้ นายเดชอิศมิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีคนเรียกตนว่า “นายกชาย”เพราะเคยรับตำแหน่ง นายกอบจ. สงขลา 2 สมัย ตั้งแต่อายุ 30 ต้นๆ และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี  จังหวัดแรกของประเทศไทยที่ไม่มีฝ่ายค้านเลย 36 คน เห็นตามนายกหมด แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เผด็จการ เราเป็นประชาธิปไตย วันนี้มาอยู่กระทรวงสาธารณสุขผู้ใหญ่หลายคนบอกขอเปลี่ยนตำแหน่งได้หรือไม่ แต่ตนก็บอกว่าถ้าเปลี่ยนไปเป็น “รัฐมนตรีว่าการ”ก็ได้แต่ถ้าจะเป็นรัฐมนตรีช่วยก็ขอที่นี่ ซึ่งบรรยากาศที่มากระทรวงสาธารณสุข เจอข้าราชครั้งแรกก็อบอุ่น มีแต่หัวกะทิของประเทศไทย คิดว่า มาอยู่กับคนเก่งอย่างน้อยก็ได้เรียนรู้จากคนเก่งในการช่วยเหลือประชาชนในด้านอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่ด้านนี้ด้านเดียว ทั้งนี้บรรยากาศในกระทรวงร่มรื่นตนชอบมาก ต่อไปรพ.สต.ทุกแห่งต้องร่มรื่น มีต้นไม้อุดมสมบูรณ์ ถ้าต้นไม้ไม่พอก็ให้ขอรมว.ทรัพย์  ดังนั้นขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย ผมทำงานง่าย รัก และเข้าใจ ให้อภัยกัน มีความตั้งใจ ที่มาตรงนี้เป้าหมายคือพี่น้องประชาชน ต้องดีขึ้น สุขภาพดีขึ้นต้องได้รับการดูแลรักษาที่สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นายเดชอิศมิ์ กล่าวว่า เรื่องนโยบายนั้น ตนขอพบและพูดคุยกับรมว.สาธารณสุขก่อน แต่ในใจเมื่อหลายเรื่อง เช่น การดูแลสุขภาพคนไทยทั้งประเทศ การป้องกัน ควบคุม รักษาโรค เมื่อเป้าหมายเป็นอย่างนี้ ที่เหลือคือวิธีทำ ไม่ให้รพ.แออัด. ซึ่งทุกวันนี้รพ.แออัดมาก อย่างไรก็ตาม มองว่า รพ.สต.มีพร้อมทุกอย่างแค่เติมบุคคลากรเข้าไปเพื่อให้การทำงานดีขึ้น อยากให้มีการกระจายครอบคลุมทุกจังหวัด ถ้าเป็นไปได้ก็จะคุยรมว.สธ. ให้มีการกระจายกำลัง และสร้างเสริมสุขภาพ และต้องคุยกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะว่า รพ.สต.กำลังมีการถ่ายโอนไปอยู่ตรงนั้น หน้าที่หลักอบจ. ก็แก้ปัญหาความืทุกข์ให้ประชาชนเหมือนกัน หลักการทำงานเหมือนกัน

นายเดชอิศมิ์ กล่าวต่อว่า ที่มาอยู่สธ. ไม่มีความกังวลอะไร มีแต่ความท้าทาย อย่างที่พูดว่า อยู่กับคนเก่ง ต้องได้อะไรที่ดีแน่นอน  ไม่เกร็ง ชอบ เพราะเคยเป็นนายกอบจ.มาก่อน กับสสจ.36 คน ที่สงขลา หลายคนปรามาสว่าจะไม่สำเร็จ ผ่านความท้าทายมามาก ทั้งนี้ที่ผ่านมา มีการพูดคุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เป็นการส่วนตัวแล้ว เพราะท่านก็เป็นคนที่ตนเองรักและเคารพและศรัทธาอยู่แล้ว ทำงานกันไม่ยากลำบากอยู่แล้ว ส่วนการหารือเรื่องการกำหนดภาระหน้าที่นั้น ต้งอรอหลังนายกรัฐมนตรีมีการแถลงนโยบายต่อสภาเรียบร้อยก่อน ซึ่งในการแถลงนโยบายนั้น มีเรื่องนโยบาย 30 บาท รักษษทุกที่ด้วย มีการซักซ้อมกันพอสมควร อย่างที่มีการประชุมครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนนโยบายที่จะมาสอดรับตรงนี้ก็ต้องมีการหารือกันให้ตกผลึกในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

“ผมมีความรักทุกคน เข้าใจทุกคน และให้อภัย ใครผิดพลาดให้อภัย ให้โอกาส มาอยู่ที่นี่ก็เพิ่มอีกข้อหนึ่งคือความตั้งใจในการทำงาน ก้คิดว่าไปได้เลย” นายเดชอิศมิ์ กล่าว ส่วนผลงานที่ตั้งเป้าว่าจะต้องทำสำเร็จภายในกี่เดือนนั้นก็ต้องดูที่อำนาจที่เขาจะให้ตน ถ้าอำนาจมากข้นก็ทำผลงานได้ชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นการกำหนดเวลาสำเร็จก็ขอให้หลังแบ่งงาน ทั้งนี้นายเฉลิมชัย มีแนวคิดคำแนะนำที่ดีในการทำประโยชน์ให้ประชาชนมากขึ้น สำหรับการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ขอพรว่า ขอโอกาสให้ตนทำงานเพื่อประชาชนมีสุขภาพดี ถ้าคนไหนป่วยก็ต้องควบคุม ป้องกัน ดูแลรักษาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด  

นพ.สุรโชค กล่าวว่า ตเนเป็นตัวแทน นพ.โอกาส การย์กวินพงษ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากปลัดกระทรวงได้รับมอบ หมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปตรวจงานที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยินดีที่ท่านมาเป็นผู้นำร่วมกันทำงาน และพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบาย

ด้านนายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้ที่มากระทรวงก็เพื่อมาให้กำลังใจสมาชิกในพรรค ไม่มีเรื่องอื่น ไม่ได้กำชับอะไร เขาเป็นผู้ใหญ่ โตแล้ว ทำได้อยู่แล้ว ผ่านงานบริการมาเยอะแยะ เชื่อมั่นว่าเขาทำได้เพราะตั้งใจที่จะมาทำ ไม่พูดเรื่องการเมือง แต่จะพูดว่า จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ส่วนทางพรรค ก็ทำงานร่วมกัน โดยเอาประโยชน์ประชาชน ประเทศชาติเป็นหลัก