นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เปิดเผยว่า ทช. ได้ดำเนินโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์  จ.นนทบุรี ระยะทาง 6.892 กิโลเมตร(กม.) ประกอบด้วย ก่อสร้างสะพานข้ามคลองพระอุดม สะพานข้ามคลองบางภูมิ และงานขยายผิวจราจร ใช้งบประมาณรวม 902 ล้านบาท ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 84% คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 67 ทั้งนี้รูปแบบการดำเนินโครงการก่อสร้าง เป็นงานก่อสร้างถนนคู่ขนานระดับดิน ขนาด 2 ช่องจราจร กว้างช่องจราจรละ 3.25 – 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2 เมตรต่อทิศทาง จากเชิงลาดสะพานพระราม 4 ถึงทางแยกต่างระดับถนนราชพฤกษ์ และงานปรับปรุงขยายผิวจราจร ช่วงจากทางแยกต่างระดับถนนราชพฤกษ์ ถึงถนนบางกรวย – ไทรน้อย พร้อมงานก่อสร้างทางเท้า ระบบระบายน้ำ และระบบไฟฟ้าแสงสว่าง

นายอภิรัฐ กล่าวต่อว่า เมื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการขยายถนนชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี แล้วเสร็จ จะทำให้ประชาชนเดินทางสัญจรไป – มาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะการกระจายปริมาณจราจรออกนอกเมืองในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งได้ทำการขยายช่องจราจรบนถนนชัยพฤกษ์จาก 6 ช่องจราจรเป็น 10 ช่องจราจรตามรูปแบบเต็มโครงการ (Ultimate Stage) ตลอดแนวเส้นทาง จะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาจราจร โดยการใช้พื้นที่ภายในเขตทางเดิมให้เต็มประสิทธิภาพ และเป็นการเสริมโครงข่ายถนนของพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนถนนชัยพฤกษ์ได้อีกด้วย

นายอภิรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับถนนชัยพฤกษ์ เป็นถนนสายหลักในแนวตะวันออก – ตะวันตก พื้นที่ฝั่งเหนือของกรุงเทพฯ และปริมณฑลทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงกับพื้นที่ย่านธุรกิจ และศูนย์ราชการตามแนวถนนแจ้งวัฒนะ เป็นถนนขนาด 6 ช่องจราจร ยังพัฒนาไม่เต็มรูปแบบ มีปริมาณจราจรกว่า 4 หมื่นคันต่อวัน เนื่องจากการเจริญเติบโตของการใช้ที่ดินในพื้นที่ จ.นนทบุรีฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา

ทำให้พื้นที่สองข้างทางมีการพัฒนา และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ถนนชัยพฤกษ์มีสภาพการจราจรที่ไม่คล่องตัว และมีแนวโน้มติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เมื่อโครงการก่อสร้างถนนราชพฤกษ์ – ถนนกาญจนาภิเษก(แนวเหนือ – ใต้) แล้วเสร็จ จะทำให้ถนนชัยพฤกษ์สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ จ.ปทุมธานีได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกมากขึ้น ดึงดูดปริมาณจราจรให้เข้ามาใช้เส้นทางถนนชัยพฤกษ์มากตามไปด้วย.