สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ว่า มาตรการดังกล่าว ครอบคลุมการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 14%, การเพิ่มเงินบำนาญ 2.5% และการจัดเก็บภาษีนักท่องเที่ยวใหม่

มิตโซทาคิส ให้คำมั่นว่าจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่กรีซ ภายในปี 2570 หลังประเทศมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ต่อหัว เกือบต่ำที่สุดในสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเขากล่าวถึงความท้าทาย 9 ประการที่รัฐบาลเอเธนส์เผชิญอยู่ เช่น การบรรจบกันของค่าจ้างในภาครัฐและภาคเอกชน, การเปลี่ยนผ่านสีเขียวโดยใช้พลังงานที่มีราคาถูกกว่า และการบรรเทาผลกระทบจากการเติบโตอย่างรวดเร็วในการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ผู้นำกรีซยังให้สัญญาว่าจะสร้างการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพต่อประชากรในประเทศ ซึ่งมีจำนวนลดลง และมีผู้สูงอายุมากขึ้นด้วย

อนึ่ง กรีซ เป็นประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างมาก และเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ยาวนานเกือบ 10 ปี ซึ่งเลวร้ายกว่าเดิมจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังการระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งราคาที่อยู่อาศัยและอาหารก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเช่นกัน

รายได้เฉลี่ยต่อปีในกรีซ อยู่ที่ครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยในยุโรป เมื่อปี 2566 ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำ 830 ยูโรต่อเดือน (ราว 31,120 บาท) ยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของค่าแรงขั้นต่ำในฝรั่งเศส ซึ่งมิตโซทาคิส ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มเงินบำนาญมากถึง 2.5% ในปี 2568 และค่อย ๆ ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 950 ยูโรต่อเดือน (ราว 35,620 บาท) ภายในปี 2570 รวมถึงประกาศสิ่งจูงใจใหม่ เพื่อเพิ่มอัตราการเกิด และผลประโยชน์ทางภาษี เพื่อกระตุ้นตลาดเช่าที่อยู่อาศัย.

เครดิตภาพ : AFP