เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 67 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Plafhasai Poommila” ได้โพสต์เตือนหญิงไทย ที่กำลังเผชิญภาวะอันตรายกับประจำเดือนมาผิดปกติ หลังผู้โพสต์มีประจำเดือน 32 วัน และใช้ผ้าอนามัยวันละ 10 แผ่น สุดท้ายพีคสุด เจ้าของโพสต์ตรวจเจอพบว่าเป็นเนื้องอก 2 ก้อน โตจนเบียดมดลูก จนต้องผ่าตัดด่วน เผย หากพบว่ามีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์และรักษา อย่าฝืนใช้ชีวิตแบบตน

โดยผู้โพสต์ ระบุข้อความว่า “ไม่คิดล่ะสิว่าคนเอนเนอร์จี้เยอะ และดูแข็งแรงแบบฉันจะเป็นโรค จะมาสรุปเรื่องราวเตือนใจหญิงสาวทุกคนอายุ 29 ปี กับการต้องตัดสินใจอันเร่งด่วน เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ยังทำงานที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่ และจังหวัดแห่งหนึ่ง จนตอนนี้ย้ายมาทำงานกรุงเทพฯแล้ว”

จุดเริ่มต้น
เริ่มจากเป็นคนมีปัญหาการเป็นประจำเดือนมากๆ ซึ่งเวลาเราเป็นหนักๆ แล้วบอกว่าปวดท้องมาก คนส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจว่ามันจะมากแค่ไหนกัน มันก็มากในแบบที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย โดยมีอาการปวดเกร็ง ขาอ่อนแรง หายใจไม่ทั่วท้อง เหมือนจะเป็นลม รู้สึกเหมือนจะตายได้ แต่ช่วงปีสองปีหลังก็หนักขึ้น

โดยมีอาการเหล่านี้
1. มีประจำเดือนออกมามาก เปลี่ยนผ้าอนามัย 10+ ทุกวัน (size35-42 เซนติเมตรเท่านั้น) บางชั่วโมงพีคๆ 15 นาที ก็เต็มแล้ว
2. มันจะชอบเซอร์ไพรส์แตกทะลักโดยที่เราไม่ตั้งตัว โดยเฉพาะเวลากินข้าว กินอยู่ดีๆ ก๊อกก็แตก ทะลักเลอะเก้าอี้ร้านอาหารบ่อยมาก จนต้องทำความสะอาดให้เค้าตลอด ช่วงเป็นเมนส์เปลี่ยนกางเกงระหว่างวันบ่อยสุดๆ เพราะเลอะตลอด เลอะโซฟา และเลอะเบาะรถ ใช้ชีวิตลำบากมาก จนต้องพกอะไรไว้รองเปื้อนติดตัวไว้
3. เวลานอนต้องใส่ผ้าอนามัยแบบกางเกงใน คืนละ 2 ตัว และต้องปูพลาสติกบนที่นอน เพราะบางทีก็ล้น ไหลมาถึงหลัง และลิ่มเลือดออกมาเยอะมาก มีลิ่มเลือดทุกวัน บางวันออกมาทีละก้อนแต่บ่อยทั้งวัน บางวันทะลักออกมาทีเดียวแบบเยอะๆ เวลาเยอะก็ประมาน 1 ฝ่ามือ
4. เป็นประจำเดือนนาน 15-30 วัน ล่าสุดเป็น 32 วัน แล้วให้พักแค่ 10 กว่าวัน ก็เป็นต่อเลย โครตเปลืองเงินค่าผ้าอนามัยบอกเลย ถ้าใครถามว่าทำไมไม่ใส่แบบถ้วย มันใส่ไม่ได้ แค่ลิ่มเลือดออกมาแต่ละทีก็ไม่พอแล้ว แล้วจะให้ล้างเลือด ชั่วโมงละ 3-4 ครั้ง ทั้งวันไม่ไหวนะ

ล่าสุด เจ้าของโพสต์เล่าว่า เป็นประจำเดือนวันแรก เป็นลมบนสถานรถไฟบีทีเอส ดีที่พี่เจ้าหน้าที่ช่วยดูแล ขอบคุณมากค่ะ แล้วช่วงนี้ก็วูบ หน้ามืดบ่อยมากๆ จุดสำคัญ คือ อดทนใช้ชีวิตมาตลอด สู้กับความทรมานจนชิน แต่ต่อจากนั้นฤกษ์งามยามดี ประจำเดือนหายมาแล้ว 1 สัปดาห์ อารมณ์ดีเลยไปตรวจที่โรงพยาบาล โดยเริ่มต้น แจ้งพยาบาลว่าต้องการตรวจภายใน พยาบาลก็จะซักถามว่าอยากตรวจเพราะอะไร มีอาการแบบไหน แล้วเขาก็แจ้งเราว่า เบื้องต้นต้องพบแพทย์ทั่วไปก่อน สอบถามอาการต่างๆ แล้วแพทย์จะวิเคราะห์เพื่อส่งเคสไปให้แพทย์เฉพาะทางเอง แต่คงนัดเป็นวันหลัง แต่พอเราเข้าพบหมอทั่วไป แล้วบอกอาการ หมอถึงกับตกใจ พร้อมมองหน้าเรา แล้วหมอบอกว่าซีดมาก ทำไมตัวเหลืองขนาดนี้ เลยขอให้เจาะเลือดตรวจ แล้วบอกพยาบาลว่าขอผลแลปด่วน พยาบาลก็ถามกันหลายคนเลย ว่าเราตัวเหลืองจริงๆ เป็นแบบนี้มานานแล้วหรือยัง แล้วผลก็คือ ค่าเลือดแค่ 13% (ผู้หญิงปกติ 35-47%) คือต่ำมากๆ และนี่แหละสาเหตุที่วูบบ่อยๆช่วงนี้ แล้วพยาบาลก็ขอเจาะเลือดอีกครั้ง คราวนี้เอาไปหลอดใหญ่ๆ และพยาบาลก็คาเข็มไว้ที่ข้อมือเหมือนเตรียมจะใส่สายอะไร และถามเราว่า (วันนี้ไปห้อง ICU หรือเปล่าคะ) เจ้าของโพสต์ก็ถึงกับสงสัย

หลังจากนั้นคุณหมอก็มาแจ้งว่าต้องแอดมิด เพราะ ค่าเลือดต่ำเกินไป อันตรายมากๆ จนต้องนอนให้เลือดต่ำๆ 3-5 ถุง อยู่ๆก็ได้นอน โรงพยาบาลเฉย ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเลย นึกว่านัดตรวจละกลับ ต่อมาหมอก็ให้พบหมอสูตินรีแพทย์คืนนั้นเลย โดยเราไปเย็นๆค่ำๆ เพราะมันสุ่มเสี่ยงรอไม่ได้ ต่อมา หมอสูติก็ซักถามอาการเราอย่างละเอียด และให้ไปเปลี่ยนชุดเตรียมตรวจภายใน จากนั้นหมอถามว่ามีแฟนหรือไม่ เจ้าของโพสต์ตอบว่า “มีค่ะ” คุณหมอจึงจะขอเก็บปัสสาวะ เพื่อเช็คการตั้งครรภ์ เพราะบางทีก็อาจเป็นการท้องได้ หมอถามว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ เจ้าของโพสต์จึงบอกว่า 7-8 ปีที่แล้ว หลังจากสิ้นเสียงคำพูดเจ้าของโพสต์ หมอจึงไม่ขอปัสสาวะจากเจ้าของโพสต์ แต่ไปเริ่มขั้นตอนอัลตร้าซาวด์ ผ่านช่องคลอดและหน้าท้อง และแล้วก็พบเจอกับน้อง เนื้องอก 2 ก้อน ตรงกลางมดลูก และอาจจะเจอเพิ่มอีกตอนผ่าเปิดท้อง พอตรวจเสร็จหมอเลยเรียกญาติเข้ามาฟัง ว่าเจออะไรและแจ้งว่า ควรผ่าออกเลย เพราะใหญ่มากๆแล้ว แต่อาจจะเก็บมดลูกไว้ไม่ได้ ยังไงพรุ่งนี้หมอเวรกลางวันจะวินิจฉัยและมาคุยกับเจ้าของโพสต์อีกที

ต่อมา เจ้าของโพสต์ก็แอดมิด และนอนให้เลือดวนไป จนเช้าต่อมาพบว่า ค่าเลือดขึ้นมาเป็น 16% หมอโรคเลือดก็เข้ามาคุย ว่ามีภาวะโลหิตจางมากๆ สาเหตุจากการตกเลือดเป็นจำนวนมาก หรือตอนเป็นประจำเดือนมาเป็นเวลานาน มีสิทธิเป็นโรคธาลัสซิเมียได้ จากนั้นหมอก็ให้ยาบำรุงเลือดผ่านสายน้ำเกลือเพิ่ม และหมอสูติฯก็มาคุย ตอนนี้แหละสำคัญมาก เพราะหมอแจ้งว่า “ต้องผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง” เพราะตำแหน่งเนื้องอกอยู่ตรงกลาง และขนาดใหญ่ แต่จำเป็นต้องตัดมดลูกทิ้งเลย เพราะเนื้องอกเบียดมดลูกสุดๆ ถึงจะแกะแค่เนื้องอก ก็จะตัดเนื้อส่วนมดลูกไปด้วยค่อนขางเยอะ มดลูกก็จะไม่ฟังก์ชั่นแล้ว และหมอถามว่าอยากมีลูกหรือไม่ เพราะควรผ่าภายในเดือนนี้เลย เลยตอบไปว่า “อยากค่ะ” หมอก็เข้าใจเลยจะพยายามยื้อให้ โดยกินยาเพื่อบรรเทาอาการไปก่อน ลองกินยาให้สุดทางดู แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยได้จริงๆหรือไม่ เพราะตอนที่เราเป็นประจำเดือน ยาที่ว่าก็คือ ยาหยุดเลือดและปรับฮอร์โมน ไม่ได้มีผลในการรักษาเนื้องอกอะไร และในระหว่างนี้ เนื้องอกก็สามารถเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ และทิ้งไว้นานก็จะโตจนดันมดลูก จนไม่สามารถมีลูกได้อยู่ดี เพราะอย่างงั้น จะทำอะไรก็รีบวางแผน ปรึกษาครอบครัว ถ้าจะมีลูกก็ต้องปรึกษาแพทย์ ว่าโอกาสที่จะมีได้อย่างปลอดภัยมีกี่เปอร์เซ็น แต่เอาจริงๆที่เจ้าของโพสต์สังเกต หมอดูไม่ค่อยมั่นใจเลยว่าเราจะมีได้ ผู้โพสต์จึงรู้สึกเริ่มท้อละ แต่ถ้าปรึกษาที่บ้านแล้วว่าจะไม่มีลูก เอาสุขภาพตอนนี้ก่อน ก็แนะนำให้เตรียมตัวผ่าตัดเลย แล้วตอนเย็นหมอก็แจ้งว่าให้กลับบ้านได้ และได้ยาบำรุงเลือด ยาปรับฮอโมนกลับไปกิน แล้วนัดมาอัพเดทอาการ และเจาะดูค่าเลือดอีกทีตอนสิ้นเดือน

อย่างไรก็ตาม เจ้าของโพสต์ยังรออัพเดทต่อไป ในระหว่างนี้ก็คงไม่ต้องคิดว่าจะผ่าเมื่อไหร่ดี แต่จะมีลูกได้ยังไงดี คือ เคยคุยกับแฟนว่าอยากมีลูกด้วยกัน แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ทันได้ตั้งตัวเตรียมความพร้อม ไม่ได้คิดว่าจะต้องตอนนี้เลยเหรอ ช่วงนี้ก็ต้องวางแผนเรื่องสุขภาพ และคงต้องไปปรึกษาแพทย์เรื่องภาวะมีบุตรยากต่อไป ดังนั้น เจ้าของโพสต์ยังบอกอีกว่า “สาวๆอย่าลืมไปตรวจเช็คสุขภาพกันด้วยนะ เป็นอะไรนิดหน่อยก็อย่าฝืนใช้ชีวิตแบบเรา ยิ่งรู้เร็วก็รักษาได้มากกว่านี้ ไปเช็คดีที่สุด ขอบคุณใครก็ตามที่อ่านจบนะคะ”

ขอบคุณข้อมูล : Plafhasai Poommila