เมื่อวันที่ 8 ก.ย. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 ด้วยสถานการณ์จำลองเหตุสาธารณภัย ระดับ 2 (สาธารณภัยขนาดกลาง สถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย มีแนวโน้มที่สถานการณ์จะรุนแรงมากขึ้น)
โดยภายหลังการฝึกซ้อมฯ เสร็จสิ้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ร่วมประชุมสรุปและประเมินผลการฝึกซ้อมฯ โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช และสำนักงานยุทธศาสตร์การป้องกันสาธารณภัย สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อประเมินมาตรฐานการปฏิบัติ หาข้อบกพร่อง จุดอ่อน นำไปแก้ไขและพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้นต่อไป ณ อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) โดยการฝึกซ้อมเสมือนจริงครั้งนี้มีการเผยแพร่ในระบบออนไลน์
สำหรับการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อซักซ้อมหน้าที่ความรับผิดชอบและหลักในการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงานตามสถานการณ์สาธารณภัยที่กำหนด โดยได้จำลองเหตุการณ์การเกิดเพลิงไหม้จากรถยนต์ไฟฟ้า (EV) บริเวณชั้นใต้ดินชั้น 2 (ลานจอดรถใต้ดิน) อาคารไอราวัดพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครดินแดง และลุกลามรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างเคียงจำนวนหลายคันจนเกิดการระเบิดขี้น
ตรวจพบมีผู้สูญหาย จำนวนกว่า 100 ราย และพบผู้ติดค้างบนอาคารสูง คือ อาคารธานีนพรัตน์ ซึ่งมีความสูง 37 ชั้น โดยสถานีดับเพลิงและกู้ภัยห้วยขวาง และสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุทธิสารไปยังที่เกิดเหตุ ร่วมด้วย ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ทีมกู้ภัยสารเคมี ศูนย์วิทยุอัมรินทร์ ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า(อำนวยการจราจร) สน.ดินแดง ศูนย์เอราวัณ(จัดรถพยาบาล) ทีมโดรน ร่วมภารกิจ และมีผู้อำนวยการเขตดินแดง เป็นผู้บัญชาการเหตุ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ประจำปี 2567 โดยมีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานกรุงเทพมหานครและภาคีเครือข่าย เข้าร่วมการซ้อม เพื่อสร้างความเข้าใจในบทบาทและการปฏิบัติตนตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ได้เข้าใจกระบวนการจัดการสาธารณภัย การปฏิบัติการเผชิญเหตุ ระยะเวลาของกระบวนการปฏิบัติ กระบวนการในการถ่ายทอดสัญญาณให้ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์เมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยได้เห็น เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยในพื้นที่ของตน .