รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมาเผชิญแรงขายอย่างหนัก โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 15 เดือนที่ 32.73 บาทต่อดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์โควิดในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะทำให้ทางการไทยต้องยกระดับมาตรการควบคุมสถานการณ์และจำกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสแล้ว ความเสี่ยงจากโควิดที่ยืดเยื้อยังมีผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะที่เหลือของปีด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดีภาพการอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งต่างก็เผชิญกับวิกฤตโควิดกลายพันธุ์เช่นเดียวกัน โดยในวันศุกร์ (9 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.55 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 32.21 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 ก.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.40-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์และมาตรการสกัดโควิด-19 ในประเทศ และถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานเฟด

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ผลสำรวจแนวโน้มภาคธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของนิวยอร์กเดือน ก.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้าและส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มิ.ย. ของจีน อาทิ ข้อมูลการส่งออก ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และจีดีพีไตรมาส 2/64 ด้วยเช่นกัน