เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายปกรณ์วุฒิ  อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่านค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ครม.แพทองธาร 1 บรรจุเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หรือกาสิโน ถูกกฎหมาย ไว้ในนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงรัฐสภา ว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้เซอร์ไพรส์ คิดว่ารัฐบาลก็ค่อนข้างชัดเจนในการผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว โดยนโยบายของพรรคประชาชนเราก็ไม่ได้คัดค้าน แต่มองว่านโยบายนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าจะทำมันก็ต้องรอบคอบและโปร่งใส ทั้งในเรื่องของการคัดเลือก การจัดทำใบอนุญาตหรือสัมปทานให้ผู้ที่จะมาดำเนินการ รวมทั้งเรื่องทำเลที่ตั้ง  ซึ่งจะต้องเกิดประโยชน์สูงสุด โปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่มีการทุจริต รวมถึงมาตรการป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ปัญหาเรื่องการติดพนัน ปัญหาการฟอกเงิน ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่รอบๆ เป็นต้น ก่อนที่จะผลักดันเรื่องนี้รัฐบาลควรจะมีความชัดเจนในเรื่องพวกนี้ เพื่อให้ประชาชนได้อุ่นใจด้วย

เมื่อถามว่าผลการศึกษาที่ผ่านมาสมบูรณ์หรือยัง ควรต้องมีการศึกษาใหม่อีกหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งกรรมาธิการ  คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ขึ้นมาแล้ว 2 ชุด ทั้งในสภาชุดที่แล้วและชุดนี้ อย่างชุดนี้เองนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.ก็ได้อภิปรายไปแล้วว่ามันยังมีหลายส่วนที่ขาดหายไป ซึ่งในครั้งนั้นพรรคก้าวไกลโหวตคัดค้านว่าขอให้พิจารณาศึกษาให้รอบคอบก่อนที่จะผ่านและยื่นไปสู่รัฐบาล ซึ่งยังไม่อีกหลายส่วน ไม่แน่ใจทางรัฐบาลได้มีการไปศึกษาเพิ่มเติมต่อหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าในการแถลงนโยบายรัฐบาล คงจะมีหัวข้อนี้ขึ้นมาด้วย เพื่อให้รัฐบาลตอบให้มีความชัดเจนว่าในเรื่องที่ประชาชนตั้งข้อสังเกตและมีความกังวลอยู่นั้น รัฐบาลมีแนวทางอย่างไร   

ต่อข้อถามว่าในการทำงานของฝ่ายค้านที่เหมือนเหลืออยู่พรรคเดียวจะทำงานอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ยังมีพรรคที่ยังอยู่กับเรา เราก็เดินหน้าตรวจสอบเหมือนเดิม ในส่วนของพรรคประชาชนเองก็ไม่แตกต่างจากขั้นตอนการทำงานของพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านเราก็ไม่ได้มีปัญหาว่าเรามีพรรคเดียว น้อยพรรคหรืออะไรก็ตาม ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นของพรรคที่ยังเหลืออยู่อาจจะทำให้เราทำงานง่ายขึ้นเสียด้วยซ้ำ

นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภา ว่า กำลังเตรียมความพร้อมกันอยู่ โดยให้ผู้ที่ประสงค์จะอภิปรายนำเสนอข้อมูลเข้ามา และพยายามปรับเนื้อหาให้มันลงตัว รวมถึงการบริหารเวลา ซึ่งต้องรอความชัดเจนในวันที่ 9 ก.ย.ที่จะมีการประชุมวิป 3 ฝ่ายอีกครั้ง  ทั้งนี้ในส่วนของพรรคประชาชนเตรียมผู้อภิปรายไว้ 30 กว่าคน แต่ต้องรอดูความชัดในเรื่องกรอบเวลาการอภิปรายก่อน ว่าจะสามารถอภิปรายได้ครบทุกคนหรือไม่  ทั้งนี้มี สส.เสนอหัวข้อมาตั้งแต่ยังไม่เห็นเล่มแถลงนโยบายจะออกมา พอเล่มแถลงนโยบายออกมาแล้ว เนื้อหาที่ สส.ได้เสนอมาก็มีความครอบคลุมทุกๆ ด้าน เราคงไม่ได้เน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่อยากจะอภิปรายให้ครอบคลุมครบทุกด้านอย่างชัดเจนและแม่นยำและตรงจุด เพื่อให้รัฐมนตรีตอบให้ชัดเจนที่สุด

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องมีแน่นอนอยู่แล้ว เพราะผ่านมาปีกว่าๆ แต่ยังไม่มีความชัดเจน ว่าสุดท้ายจะแจกแบบไหนและแจกเท่าไร และอาจจะเปลี่ยนไปมาอยู่เรื่อยๆ ต้องฝากความกังวลด้วยว่าถ้ารัฐบาลนี้ทำงานในนโยบายระดับใหญ่ๆ  ระดับเรือธงแบบนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปที่เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่น่ากังวลเช่นกันว่าจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาสร้างความกังวลและความสับสน และจะเกิดผลกระทบเชิงลบตามมาถ้ารัฐบาลไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้

ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า  ตนทราบว่ารัฐบาลคิดว่าเอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์จะเรื่องสำคัญในการผลักดัน แต่ไม่ใช่อยู่ๆ จะทำได้ทันที จะต้องดูว่ามันจะมีผลกระทบอย่างอื่นอะไรบ้าง เวลาเราพูดถึงเอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์จริงๆ เนื้อในของมันที่เป็นข้อถกเถียงกันมากๆ ก็คือเรื่องของกาสิโน ซึ่งเป็นตัวรายได้หลัก ถ้าเราดูในประเทศอื่นๆ ที่เขาทำในเรื่องเอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์รายได้ส่วนใหญ่ก็มาจากกาสิโน ปัญหาก็คือว่าถ้าทำในเรื่องของกาสิโน สิ่งที่ต้องพึ่งระวังคือจะทำอย่างไรให้มันออกมาดี แบบที่เราคิดฝันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นในสิงโคโปร์ ลาสเวกัส หรือมาเก๊า ประเทศเหล่านี้จะมีคุณสมบัติอยู่ข้อหนึ่งคือความเข้มแข็งของกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมายสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากมองย้อนดูประเทศของเรา ตนค่อนข้างกังวลว่ารัฐบาลเตรียมความพร้อมปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้แล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มีสิ่งที่ตนกังวลก็คือมันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เพราะเราอาจจะเจอเรื่องของการฟอกเงิน ยาเสพติด การพนันออนไลน์ ที่จะเป็นปัญหาต่อไป

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นสิ่งที่ตนกังวลคือความโปร่งใส คำถามคือโปรเจกต์นี้ความโปร่งใสจะมีมากน้อยเพียงไร เพราะว่าเวลาคุณบอกว่าคุณจะทำที่ต่างๆ พูดตรงๆ ก็คือมันมีข่าวลือเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่าได้มีการกำหนดกันไปแล้วว่าใครได้ใบอนุญาตบ้าง สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เกิดล็อกกันไว้แล้วว่าอาจจะมีทุนใหญ่ไหนบ้าง ซึ่งอาจทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน ทำให้ประโยชน์ที่ประเทศและประชาชนจะได้รับไม่เกิดขึ้นจริง อีกทั้งการที่บอกว่าจะแก้ปัญหาบ่อนการพนันต่างๆ ได้นั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้รัฐบาลเข้าใจผิด มันคงไม่ได้เกี่ยวกันเลย การแก้ปัญหาบ่อนตามชุมชนต่างๆ วิธีการทำคงต้องเป็นวิธีอื่น ไม่ใช่การลงทุนในเมกะโปรเจ็กต์แบบนี้ เพราะบ่อนตามชุมชนส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ในขณะที่หากจะไปเล่นกาสิโนคนไทยต้องเสียเงิน คร่าวๆ ก็ประมาณ 5,000 บาท ตนคิดว่ามันเป็นไปได้ยากที่คนไทยหรือผู้เล่นรายย่อยจะเข้าไปเล่นในกาสิโนได้

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามพรรคไม่ได้คัดค้านในเรื่องของการมีกาสิโน เราต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีการพนันอยู่แล้ว และมีการพนันที่ผิดกฎหมายเยอะมาก สิ่งที่เราควรทำคือควรเข้าระบบ อันนี้คิดว่าเราเห็นตรงกัน แต่ประเด็นคือว่าการเอาเข้าระบบมันอยู่ที่วิธีการและเป้าหมาย ซึ่งถ้าเกิดเราบอกว่าบ่อนการพนันที่อยู่ตามซอก ตามเมืองต่างๆ ถ้าเราจะแก้ปัญหาตรงนี้ เอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์ไม่ตอบโจทย์ มันต้องเป็นวิธีการอื่น หรือการพนันออนไลน์เราจะแก้ปัญหาอย่างไรตนเชื่อว่าถ้านักลงทุนเขาจะมาลงทุน ต้องไม่ลืมว่ามันมีการพนันออนไลน์ที่คอยดูดเงินคนไทย ซึ่งอาจไม่ใช่ทั้งหมด แต่มีบางส่วนที่อาจจะเป็นคู่แข็งกันระหว่างเอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์ คำถามคือว่ามันจะมีการจัดวางและแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร หรือแม้กระทั่งการฟอกเงิน มันก็ต้องมีการคิดเรื่องนี้ก่อนที่จะทำกาสิโนต่างๆ

“ส่วนทำไมรัฐบาลถึงเน้นเรื่องนี้ ผมคงตอบแทนรัฐบาลไม่ได้ แต่เรื่องนี้ถูกพูดถึงมานาน และมีความพยายามดำเนินการตั้งแต่สภาชุดที่แล้ว  ต้องยอมรับว่าถ้ามันมีการตั้งเอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์ได้จริง ฝันหวานที่นักการเมืองจำนวนมาก คิดไว้ก็คือฝันหวานว่ามันอาจจะเจริญรุ่งเรืองเหมือนสิงคโปร์ หรือลาสเวกัส ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่เอ็นเตอร์เท็นเมนท์คอมเพล็กซ์ทุกที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ ซึ่งผมจะอภิปรายเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้งในวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ” นายรังสิมันต์กล่าว.