เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เตรียมทำงานแข่งกับเวลาทุกนาที เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ ช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่าม็อบเจ้าเก่าขาประจำ เครือข่ายค้าความขัดแย้งที่มีไอ้โม่งชักใยคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ก็ประกาศจะออกมาชุมนุมอีกแล้วในวันที่ 17 ก.ย. 2567 ซึ่งหากเห็นหน้าเห็นชื่อม็อบแล้วไม่ต้องเดาว่า ต้องการอะไร เจตนาปั่นป่วน ขัดขวางการทำงานและล้มล้างรัฐบาล น่าอเนจอนาถใจ มาถึง พ.ศ. นี้ยังไม่หยุดใช้วิธีการเดิม ๆ ถ่วงรั้งการพัฒนา ตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านเขาเจริญไปไหนต่อไหนแล้ว สงสารประเทศไทย และคนไทย ที่ต้องมาติดกับดักความขัดแย้งไม่รู้จบสิ้น กติกาของประเทศไทย คือประชาธิปไตยรู้กันทั่วไปชัดเจน ใครอยากมีอำนาจก็ต้องลงสนามเลือกตั้ง ประชาชน จะเป็นคนตัดสิน ทุก ๆ 4 ปี เย็นให้พอ รอให้ได้ หรือว่ารอไม่ไหวพรุ่งนี้ ปีนี้ จะตายแล้วหรืออย่างไร
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี หุ้นก็ดีดขึ้นสูงต่อเนื่อง เศรษฐกิจจะดี จีดีพีจะโต ประชาชนจะมีกินมีใช้ นายกฯ และครม.ใหม่ กำลังจะเดินหน้าแก้ปัญหาประชาชนที่กำลังประสบปัญหามากมายหลายด้าน เป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ไม่ง่าย รัฐบาลต้องมีเสถียรภาพ ต้องการความสงบ สมาธิ คิดวิเคราะห์แก้ไขปัญหา แต่ก็มีแก๊งป่วน กวนน้ำขุ่น มากันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ยังไม่ได้ทำงานเลย ก็มาไล่แล้ว ไม่คิดจะให้โอกาสรัฐบาลสักนิด สะท้อนให้เห็นว่าเป็นพวกจิตใจคับแคบ ไม่ได้มองที่ผลงาน แต่มองด้วยความอคติคั่งแค้น เจตนาไม่บริสุทธิ์ ขัดขวางความเจริญของประเทศ ทั้งนี้ ตนอยากขอให้ทุกคนทุกฝ่ายในประเทศนี้ เคารพกติกาประชาธิปไตย ใครดีเลวอย่างไรจดไว้ในใจ แล้วค่อยไปกาใส่บัตรเลือกตั้ง 4 ปี วนไปเรื่อย ๆ ทำได้แค่นี้บ้านเมืองก็ศิวิไลซ์แล้ว เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ แต่มีพวกที่ต้องการทำให้ยาก สุดท้ายจึงต้องลำบากกันทั้งประเทศ ประชาชนต้องสำรวจพฤติกรรม และประณามพวกคนเหล่านี้ที่ไม่เห็นหัวประชาชน ไม่สนความเจริญประเทศชาติ