สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และกรมอนามัยและบริการผู้สูงอายุของรัฐมิสซูรี รายงานว่า ผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่คนหนึ่งซึ่งติดเชื้อไข้หวัดนก เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา และได้รับยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ก่อนหายป่วยและกลับบ้านได้แล้วในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการของไข้หวัดใหญ่ของเขาน่าสงสัย แพทย์จึงส่งผู้ป่วยไปเข้ารับการตรวจเพิ่มเติม ซึ่งผลปรากฏว่าเป็นเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิดเอช5 ทำให้เขากลายเป็นผู้ป่วยไข้หวัดนกคนที่ 14 ของสหรัฐในปีนี้ และเป็นรายแรกซึ่งมีการยืนยัน ว่าไม่เคยสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ

ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานวัวนมที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกภายในรัฐมิสซูรี แม้พบการติดเชื้อในฝูงไก่ปศุสัตว์ ไก่บ้าน และนกป่าก็ตาม ขณะที่ผู้ป่วยไข้หวัดนกในประเทศทั้งหมดเป็นคนงานในฟาร์ม รวมไปถึงผู้ป่วยรายแรก เมื่อปี 2565

ไข้หวัดนกมักพบในนกหรือสัตว์ปีกในป่า แต่เมื่อไม่นานมานี้ ถูกพบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และในปีนี้ พบการระบาดในวัวทั่วประเทศ และสามารถแพร่เชื้อสู่คนได้เป็นครั้งคราวผ่านการสัมผัสใกล้ชิด หรือสภาพแวดล้อมที่มีการปนเปื้อน

แม้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) ประเมินแล้วว่า ความเสี่ยงของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกต่อประชาชน “ยังอยู่ในระดับต่ำ” แต่สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเชื้อไวรัสไข้หวัดบางกรณี ซึ่งไม่สามารถระบุแหล่งที่มาจากสัตว์ได้ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่า โรคดังกล่าวสามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ ทว่าหากเกิดขึ้นจริง จะเพิ่มระดับความรุนแรงของโรคเป็นอย่างมาก.

เครดิตภาพ : AFP