บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวเปิดตัว ซีแอลอี คูเป้ (CLE Coupé) รถยนต์สปอร์ตที่เข้ามาแทนที่ตระกูลคูเป้ ทุกรุ่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ บุกตลาดประเทศไทยด้วยกลยุทธ์การวางตำแหน่งทางการตลาดในเซกเมนต์ ดรีมคาร์ ออกแบบขนาดมิติตัวถังเทียบเท่าอี-คลาส คูเป้ ประเดิมเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ 2 รุ่น นำโดย CLE 300 4MATIC Coupé AMG Dynamic และ Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupé จัดเต็มด้วยการติดตั้งอุปกรณ์และระบบการขับขี่ขั้นสูงที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู รุ่นประกอบในประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าทุกคนเป็นเจ้าของผ่านช่องทางออนไลน์และตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษกับ “Premium Gift Set” สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้า 100 คนแรก ที่ได้รับมอบรถในเดือนตุลาคม 2567
นายมาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าได้แนะนำซีแออี คูเป้ ใหม่ รถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู เจเนเรชั่นล่าสุด ที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลงใหลในยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมความหรูหรา ผสานด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ CLE 300 4MATIC Coupé AMG Dynamic และรุ่นสมรรถนะสูงที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการขับขี่ขั้นสูงสุดอย่าง Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupé”
สำหรับรถทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมระบบปฎิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด MBUX Gen20x นับเป็นรุ่นที่ 2 ของรถที่ทำตลาดในประเทศไทย หลังจาก The new E-Class โดยระบบปฏิบัติการดังกล่าวมีความโดดเด่นด้วยระบบควบคุมการสร้าง routines mode หรือ AI-generated routines ที่ผสานระบบ AI ในการเรียนรู้และบันทึกรูปแบบการใช้งานของผู้ขับขี่ และยังมีการออกแบบปุ่มไอคอนให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า พร้อมแยกสีให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นตามมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP อีกทั้งยังรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง เพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายในทุกมิติ
CLE 300 4MATIC Coupé AMG Dynamic รถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ในเซกเมนต์เดียวกับ E-Class Coupé นำเสนออีกขั้นของการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความสปอร์ต ความหรูหรา และความทันสมัยตามสไตล์ยนตรกรรมยุคใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 2.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้า Mild-Hybrid 48V ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ กระจายการส่งกำลังที่ด้านหน้า 45% และด้านหลัง 55% ใช้เกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.2 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
ส่วนรุ่น Mercedes-AMG CLE 53 4MATIC+ Coupé รถสปอร์ตคูเป้สมรรถนะสูง มาพร้อมการติดตั้งอุปกรณ์ ขั้นสูงจาก Mercedes-AMG ที่มีมากที่สุดในบรรดารถรุ่นประกอบในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น AMG Performance 4MATIC+, AMG DYNAMIC PLUS Package, AMG dynamic engine mount และ AMG Real Performance Sound โดยใช้เครื่องยนต์ชุดเดียวกับ CLS 53 และ GLE 53 ซึ่งมาพร้อมขุมกำลังเบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับระบบไฟฟ้า Mild-Hybrid 48V ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ สามารถกระจายแรงส่งกำลังได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบ 100% ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 560 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.2 วินาที และเป็นรุ่นแรกในประเทศไทยที่ติดตั้งแพ็กเกจ AMG Driver’s Package ช่วยปลดล็อกความเร็วได้สูงสุดถึง 270 กม./ชม.
“ตลอดระยะเวลากว่า 4 ทศวรรษ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประสบความสำเร็จ ในการทำตลาดรถสปอร์ต 2 ประตู โดยมีจุดเริ่มต้นความสำเร็จมาจากโมเดลคลาสสิก คูเป้ ที่รู้จักกันดีในฐานะอี-คลาส คูเป้ รหัสตัวถัง C123 ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ต 2 ประตูรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้ามาในประเทศไทย ตามด้วยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีอี รหัสตัวถัง C124 ก่อนจะเข้าสู่ยุคโมเดิร์น ลักชัวรี คูเป้ ด้วยการแนะนำซีแอลเค ที่ทำตลาดต่อเนื่อง 2 เจเนเรชั่น และกลับมาใช้ชื่ออี-คลาส คูเป้อีกครั้ง ด้วยรหัสตัวถัง C207 จนมาถึงรุ่นสุดท้ายที่ทำตลาดในไทยอย่าง C238 โดยรถในตระกูล คูเป้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก”