เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่6 ก.ย.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.สส.3 บก.สส.บช.น. และ ตำรวจบก.สส.บช.น. เข้าตรวจค้นคลีนิคเวชกรรม แห่งหนึ่ง เลขที่ 1105/4 ซ.เพชรบุรี 31 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สส.บช.น. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า คลินิกดังกล่าวรับทำแท้งเถื่อน จึงมีการตรวจค้นเพื่อตรวจสอบในครั้งนี้ คลีนิคดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์คูหาเดียว สูง 4 ชั้น   บริเวณกระจกด้านหน้าบริเวณชั้น 1 ได้มีการเขียนข้อความเป็นภาษาไทย ระบุว่า ตรวจการตั้งครรภ์ วัคซีนเด็ก คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก โปลิโอ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทั้งนี้เมื่อเข้าไปด้านในคลินิกมีเคาน์เตอร์ให้บริการและด้านในแบ่งเป็นห้องตรวจโรค โดยขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการตรวจพบ แพทย์ชายรายหนึ่งกำลังทำการฉีดยาบางอย่างให้กับคนไข้บนเตียง ที่บริเวณชั้นลอย จึงได้จับกุมควบคุมตัวไว้ ภายหลังจากตำรวจ เข้าตรวจค้นได้คุมตัวแพทย์ประจำคลินิกคนหนึ่ง ไปสอบปากคำ ที่ บก.สส.บช.น.

 โดยขณะคุมตัวขึ้นรถนายแพทย์ประจำคลินิกปฏิเสธว่าไม่ได้มีการทำแท้ง และมีใบประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ถูกต้อง ยืนยันว่าขณะที่ตำรวจเข้าตรวจค้นกำลังฉีดกลูโคสให้กับคนไข้ไม่ใช่ยาเพื่อทำแท้งใด ๆ ทั้งสิ้น และอ้างว่ามีคนกลั่นแกล้ง 

 น.ส.แก้ว อินพรม อายุ 59 ปี ญาติของเจ้าของตึกที่ปล่อยให้เช่า เปิดเผยว่าคลินิกดังกล่าวไม่ได้มีการทำแท้ง เปิดรักษาคลินิกเวชกรรมทั่วไป ซึ่งภายในคลินิกจะมีห้องตรวจอยู่ 2 ห้อง และบริเวณชั้นลอยจะเป็นห้องให้น้ำเกลือ ซึ่งอดีตเจ้าของเป็นนายแพทย์อีกคนหนึ่ง แต่ได้ให้แพทย์คนอื่นเข้ามารับช่วงต่อ

ภายหลังจากการจับกุม นายธนบูลย์ หรือ หมอแม็ก อายุ 55 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี ในข้อหา “เป็นบุคคลประกอบอาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525” และได้นำตัวมาสอบสวนต่อที่ บก.สส.บช.น. เจ้าตัวก็ยอมรับว่า “ปลอมเป็นหมอมา 20 ปี” โดยเริ่มเดินเส้นทางนี้มาตั้งแต่ถูกออกจากราชการตั้งแต่ปี 2547

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหากล่าวหา โดยให้การว่า ในปี 2532  ตนจบการศึกษาระดับ ปริญญาตรี สาขา การพยาบาลและผดุงครรภ์ (บุรุษพยาบาล) จากนั้นเข้ารับราชการทหาร ติดยศ เรือตรี ตำแหน่ง นายทหารการแพทย์ ประจำอยู่ รพ.ชื่อดังในอ.สัตหีบ จว.ชลบุรี คอยดูแลทหารที่ป่วย ระหว่างนั้นปี 2547 ตนต้องการหารายได้เสริมโดยการไปนั่งปลอมเป็นหมอรับตรวจคนไข้ตามคลินิกหลังเลิกงาน จนปี 2552 ระหว่างที่ตนกำลังทำงานเสริมตรวจอยู่ที่คลินิก ได้มีหญิงท้องอายุครรภ์ 3 เดือน มาติดต่อเข้ารักษา ผู้หญิงท้องคนดังกล่าวต้องการมาทำแท้งลูก ตอนนั้นตนถูกจับกุมด้วยแต่ได้ประกันตัวและหลบหนีคดีจนคดีขาดอายุความ และตนก็ถูกออกจากราชการทหาร 

 โดยตลอดการหลบหนี 20 ปีที่ผ่านมา ตนก็ได้ปลอมเป็นหมอมารักษาคนไข้ตามคลินิกต่างๆ โดยเอาวิชาการรักษาคนไข้ตอนเป็นทหารมาใช้ ยอมรับว่าตลอดระยะเวลา 20 ปี ทุกๆวันที่ไม่สามารถนอนหลับเต็มตา เพราะมักจะฝันถึงเด็กเล็กๆ และมักจะรู้สึกว่ามีเด็กอยู่ข้างตัวตลอดเวลา เหมือนรู้สึกว่า เด็กที่ตนทำแท้งนั้น จะมาขอส่วนบุญส่วนกุศล  ในบางครั้ง จะระลึกและอธิฐานว่า ยอมรับว่าชีวิตไม่ค่อยประสบความสำเร็จในชีวิต  ครั้งนี้ก็เช่นกัน ตนเริ่มจะมีอาชีพที่เป็นหลักเป็นแหล่งและมั่นคง ก็มาประกอบกิจการคลินิค โดยที่ตนรู้อยู่เต็มอกว่า “เป็นระเบิดเวลาที่ตนนั่งทับไว้ รอการระเบิด” และสิ่งที่ตนกลัวมาตลอดเวลา ก็เกิดขึ้นจริงๆ”หลังจับกุมตัวนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา ผู้ต้องหาปลอมเป็นหมอเป็นเวลา 20 ปี คอยวินิจฉัยโรค รักษาคนไข้ มีความเสี่ยงต่อผู้เข้าการรักษา เพราะวิชาชีพหมอเป็นวิชาชีพเฉพาะทาง หากรักษาผิดพลาดอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ และฝากถึงสถานพยาบาลทุกแห่ง ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสว่ามีบุคคลที่ไม่ใช่หมอมานั่งตรวจคนไข้ จะดำเนินการจับกุมทันที ขอประชาชนทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีคดีที่ก่อให้เกิดความเดือนร้อนของประชาชนสามารถแจ้งมาทางช่องทางเฟซบุ๊กเพจ สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.