เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระ2-3 ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย

ทั้งนี้ในช่วงเย็นเข้าสู่ มาตรา30 รัฐสภา วงเงิน 4,000,277,600บาท  โดยนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายถึงงบค่าอาหารสส.ว่า ค่าอาหารสส.ปีงบประมาณ2566 และ2567 ตั้งไว้ที่ปีละ 72ล้านบาท แต่เบิกจ่ายจริงไม่ถึง ปี66 ใช้แค่40 ล้านบาท และปี67 ใช้ไป31 ล้านบาท ใช้ไม่หมด มีงบส่งคืนคลังทุกปี ล่าสุดปีงบประมาณ2568 ขอมา 72ล้านบาทเหมือนเดิม แต่กมธ.ตัดไป 15ล้าน เหลือ 57ล้านบาท ค่าอาหารสส.ในวันประชุมสภา มี3มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ถ้าวันใดประชุมสภาดึก ตั้งแต่ 20.00-24.00น. จะมีอาหารรอบดึกเพิ่มให้ ยิ่งถ้าประชุมเกิน 24.00น. จะมีอาหารพิเศษเพิ่มหลังเที่ยงคืนให้อีก  สรุปแล้วถ้าเป็นวันประชุมสภาปกติ ค่าอาหารสส.ต่อวันอยู่ที่ 5แสนบาท ถ้าวันใด ประชุมสภาเลิกดึกอยู่ที่ 7แสนบาทต่อวัน  เทียบกับค่าอาหารเจ้าหน้าที่จะได้เฉพาะมื้อเย็น เป็นอาหารกล่องอยู่ที่ 100บาทต่อคน มี 930คน หรือ 93,000บาทต่อวัน แต่เท่าที่ดูจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานจริงๆ มีไม่ถึง 930คน หาที่มาตัวเลข 930คน ไม่เจอ นอกจากนี้ยังมีค่าอาหารรับรองการประชุมคณะกรรมาธิการ ตกปีละ 39ล้านบาท ที่ผ่านมาประชาชนก่นด่าเรื่องอาหารสส.เต็มที่ ถึงเวลาควรวางแผนเรื่องอาหารสส.ใหม่ ไม่ให้มีอาหารเหลือมากมาย เชื่อว่ามีวิธีจัดการให้อยู่ในงบประมาณอย่างเพียงพอ

ขณะที่นายธเนศ เครือรัตน์ กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า งบอาหาร สส. ตกปีละ 72ล้านบาท แต่ใช้จริงอยู่ที่ปีละ 30ล้านบาท มีเหลือส่งคืนทุกปี ปีนี้กมธ.ตั้งใจปรับลดค่าอาหารสส.ให้อยู่ที่ 40ล้านบาทต่อปี แต่สุดท้ายปรับลดได้แค่ 15ล้านบาทเท่านั้น เนื่องจากต้องสำรองค่าอาหาร สส.ไว้ในกรณีที่มีการประชุมสภา เพิ่มเติมในวันศุกร์ รวมถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ที่ฝั่งสภาผู้แทนราษฎรจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าอาหาร ทราบว่าปีนี้จะประชุมร่วมรัฐสภาหลายครั้ง ทำให้ปรับลดได้แค่ 15ล้านบาท

นายทรงยศ รามสูต กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า กมธ.ได้ทำข้อสังเกตแจ้งถึงวิธีลดค่าใช้จ่ายงบอาหารสส.ว่า ควรเปลี่ยนเป็นวิธีใช้บัตรเติมเงิน มีวงเงินให้สส.ใช้วันละ 350บาท นำไปซื้ออาหาร ถ้าใช้ไม่หมดก็ต้องจะคืนสภาในวันนั้น จะแก้ปัญหาลดค่าอาหารสส.ได้  หลังจากสส.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าว