เมื่อวันที่ 5 ก.ย. รศ.นพ.สุภนิติ์ นิวาตวงศ์ รองผอ.ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณี กรมการขนส่งออกประกาศ เรื่องกำหนดแบบใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ (ฉบับที่2) พ.ศ.2567 ที่มีการระบุสัญลักษณ์เรื่องบริจาคอวัยวะ ว่า สำหรับผู้ที่บริจาคอวัยวะที่ระบุในใบขับนั้น จะรวมถึงการบริจาคดวงตาด้วย อย่างไรก็ตาม ผุ้ที่มีใบขับขี่แบบเดิมไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนเป็นรูปแบบใหม่ แต่หากต้องการให้มีตราสัญลักษณ์การบริจาคก็สามารถไปขอเปลี่ยนใบขับขี่ใหม่ได้ หรือผู้บริจาคจะรอเปลี่ยนใหม่รอบเดียวตอนไปต่ออายุใบขับขี่ก็ได้ โดยให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ได้เลย ทั้งนี้การที่ใบขับขี่มีสัญญักษณ์ดังกล่าว จะทำให้หากกรณีที่ผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุและพยายามช่วยชีวิตจนสุดความสามารถ เข้าเกณฑ์สมองตาย และสามารถบริจาคอวัยวะได้ กรณีนี้หากผู้ป่วยเข้าเกณฑ์บริจาคอวัยวะได้ ก็จะตรวจสอบว่ามีการแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะแล้วหรือไม่

“เมื่อไปถึงกรมการขนส่งพื้นที่ต่างๆ ให้แสดงความประสงค์ในการขอสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง ซึ่งจะมีใบออกมาให้กรอก จากนั้นต้องโชว์หลักฐาน เช่น บัตรประจำตัวการบริจาคอวัยวะและดวงตาของเราให้กับเจ้าหน้าที่ หรือหากเคยบริจาคแบบออนไลน์ ก็สามารถเปิดแอปพลิเคชันให้เจ้าหน้าที่ดูได้ กล่าวคือ ต้องมีหลักฐานการบริจาคอวัยวะยืนยัน” รศ.นพ.สุภนิติ์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีผู้ประสบอุบัติเหตุฉุกเฉิน และใบขับขี่ไม่มีสัญลักษณ์ดังกล่าว ทางโรงพยาบาลจะทราบได้อย่างไรว่า เป็นผู้บริจาคอวัยวะหรือดวงตา รศ.นพ.สุภนิติ์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลจะทำได้ 2-3 ลักษณะ เช่น โทรสอบถามทางศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย หรือใช้บัตรประชาชนของผู้ป่วยเสียบเข้าไปยังเครื่องอ่านบัตร หากเคยแสดงความจำนงก็จะดูได้ เพียงแต่ตัวเลขอาจไม่อัปเดตตรงกัน 100% อาจมีดีเลย์บ้าง หรือญาติจะเป็นผู้แจ้งเอง

รศ.นพ.สุภนิติ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันใบขับขี่เองเมื่อนำไปเสียบเครื่องก็ยังไม่สามารถทราบได้ว่า เป็นผู้บริจาคอวัยวะหรือดวงตา เพราะยังไม่ได้มีข้อมูลดังกล่าว แต่หากไปเปลี่ยนใบขับขี่ใหม่ และมีเครื่องหมายแสดงชัดเจนก็จะง่าย เพราะเมื่อเห็นก็ทราบได้ทันทีว่า เป็นผู้บริจาคอวัยวะหรือดวงตา ส่วนบัตรประชาชน ณ ปัจจุบันยังไม่สามารถเพิ่มเครื่องหมายได้ เพราะพื้นที่เต็ม แต่ใบขับขี่สามารถทำได้.