วันที่ 5 ก.ย. นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตกแม่จอกหลวง แหล่งน้ำสำคัญของอ่างเก็บน้ำแม่จอก พร้อมเตรียมพัฒนาและสนับสนุนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ในอนาคต โดยน้ำตกแม่จอกหลวง แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ตั้งแต่ล่างสุด ไปจนถึงตัวสุดท้ายที่จะเชื่อมต่อไปยังหมู่บ้านช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
นายเกื้อกูล กล่าวว่า น้ำตกแม่จอกหลวง ตั้งอยู่ด้านหลังโครงการชลประทานเชียงใหม่ เมื่อท่านขับขี่รถเข้ามาภายสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ก็ขับขี่ตรงมาจนสุดเส้นทาง จะพบกับป้ายโครงการชลประทานเชียงใหม่ เมื่อมาถึงแล้ว ก็ตรงเข้าไปจนถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำ และร้านกาแฟสันเขื่อนที่มีกาแฟ และเครื่องดื่มไว้คอยบริการสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อขี่รถไปตามเส้นทางอย่างต่อเนื่อง มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ป่า ซึ่งเป็นผืนป่าของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เมื่อลัดเลาะไปตามเส้นทาง ก็จะเข้าสู่น้ำตกแห่งแรก แม้ว่าจะเป็นน้ำตกขนาดเล็ก แต่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับความสวยงามของธรรมชาติ และน้ำที่เย็นสดชื่น บรรยากาศร่มรื่น จากนั้นเดินขึ้นต่อไปอีกประมาณ 10-15 นาที ตามเส้นทาง (เป็นเส้นทางเดินที่เห็นได้ชัดเจน) ก็จะพบกับน้ำตกตัวที่สอง ซึ่งน้ำตกแห่งนี้มีความงดงามอย่างมาก และยังมีจุดให้นักท่องเที่ยวได้มุมนั่งพักผ่อน มีจุดให้ยืนถ่ายภาพ หรือนั่งเล่นริมน้ำตกได้อย่างสบาย บรรยากาศร่มรื่น ลมเย็นๆ และน้ำตกที่เย็นชื่นใจ
มาถึงแล้วก็พลาดไม่ได้คงต้องมีการเซลฟี่ ถ่ายความสวยงามกับน้ำตก เก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อย พักผ่อนให้หายเหนื่อยอีกเล็กน้อย ค่อยมุ่งหน้าต่อไปยังน้ำตกตัวที่สาม ที่อยู่ห่างจากน้ำตกตัวที่สอง ประมาณ 2-3 กิโลเมตร เมื่อเดินไปตามเส้นทางในป่า ผ่านความทรหดเล็กน้อย กับการเดินขึ้นและการเดินลงในพื้นที่ของป่า ก็มุ่งหน้ามาถึงน้ำตกตัวที่สาม ที่มีความแปลกกว่าน้ำตกสองตัวแรก เพราะใครเห็นก็ต้องทึ่งกับความงามของสายน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผา มีตะไคร่น้ำ มีเถาวัลย์ ต้นไม้ที่ขึ้นตามริมหน้าผา ตัดกับภาพแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามากระทบกับสายน้ำตก ทำให้เกิดภาพความสวยงาม และความสมบูรณ์ของธรรมชาติแห่งนี้เรียกว่าไม่มีที่ติได้เลย เมื่อล้างมือ ล้างหน้าจากน้ำที่มาจากน้ำตกให้ความสดชื่น เย็นสบาย ทำให้หายเหนื่อยได้เลยทีเดียว จากนั้นเมื่อเดินขึ้นไป จะเจอน้ำตกตัวที่สาม ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สวยงามแล้วจุดที่แปลกของน้ำตกตัวนี้ ไม่เหมือนกับน้ำตกที่ไหนเลย เพราะความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่เรียกว่าเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ป่าเขียวอุดมสมบูรณ์ ป่าไม้บริเวณโดยรอบไม่มีการถูกตัดและหักโค่นเลย และเส้นทางเดินยังเป็นทางเดินสำหรับคนหาของป่าเท่านั้น
จากนั้นเมื่อเดินลัดเลาะขึ้นไปอีก ก็จะเจอน้ำตกตัวที่สี่ ซึ่งเป็นตัวสุดท้าย ที่อยู่ด้านบนสุด เมื่อมองไปตามเส้นทางของน้ำตกก็จะเห็นทิวทัศน์ของฝั่งอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เมื่อมองไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเป็นเส้นทางที่ไปยังหมู่บ้านช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเส้นทางนี้เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ น้ำใส สวยงาม มีมุมนั่งพักผ่อนหลายจุด และที่สำคัญ ยังมีจุดที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและเล่นน้ำตกได้อีกด้วย เรียกว่าแม้จะเดินมาเหนื่อย แต่เมื่อเห็นน้ำตกแห่งนี้แล้ว ก็หายเหนื่อยกันเลย
นายเกื้อกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า น้ำตกแม่จอกหลวงแยกเป็นสองสาย สายแรกเป็นแยกฝั่งขวา เมื่อเดินมาตามเส้นทางก็จะเจอน้ำตกตัวที่สามที่อยู่ฝั่งซ้าย สำหรับจุดสูงสุดของน้ำตกแห่งนี้ เมื่อมองย้อนเส้นทางลงไปอีกสันเขาก็จะเป็นหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน น้ำตกแห่งนี้ในช่วงฤดูฝนก็จะสวยงามมาก ช่วงนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ก็ยังมีน้ำจำนวนมาก ซึ่งเหมาะกับการท่องเที่ยว และน่าขึ้นมาเที่ยว ในบริเวณนี้ที่อยู่เหนืออ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ก็มีการปลูกต้นไม้เพิ่มเติม รณรงค์ไม่ให้มีการตัดต้นไม้ทำลายป่า ในผืนป่าแห่งนี้ยังคงมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ และเป็นเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยด้วย ซึ่งน้ำตกแม่จอกหลวงแห่งนี้เป็นต้นน้ำที่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำแม่จอก ที่อยู่ในโครงการชลประทานเชียงใหม่ ซึ่งมีความจุอ่างเก็บน้ำ 1.1 ล้าน ลบ.ม. ในปีนี้เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนอ่างเก็บน้ำก็จะเต็มความจุของอ่าง ซึ่งน้ำที่มีอยู่ก็จะใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค มีหน่วยงานในพื้นที่ 11 หน่วยงาน ที่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำตกแม่จอกหลวงแห่งนี้
สิ่งที่ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะการท่องเที่ยวแนวนี้ ถือว่าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ และชื่นชอบการท่องเที่ยวผจญภัยแบบแอดเวนเจอร์ ในระหว่างที่เดินทางท่องเที่ยว นอกจากน้ำตกที่ได้เห็นว่ามีความงดงามแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้ระหว่างเดินจะเห็นดอกไม้ป่า กล้วยไม้ป่า ต้นเฟิร์น มีให้พบเห็นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมองดูสีสันที่สวยงามตัดกับพื้นที่ป่าที่เขียวชะอุ่ม ทำให้เกิดความสวยงามตามธรรมชาติ เป็นวิวของธรรมชาติที่ปัจจุบันพบเห็นได้น้อยลงแล้ว เพราะสภาพป่าแห่งนี้ยังสมบูรณ์อยู่ จึงยังคงพบเห็นดอกไม้ป่าตามเส้นทางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคตก็เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ได้ ปัจจุบันก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวกันบ้างแล้ว