เมื่อวานนี้ 4 ก.ย. 67 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. “แพทองธาร 1” และสุดท้ายจะมีการเรียกประชุมครม.ใหม่นัดพิเศษ เพื่อขอมตินโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงวันที่ 10-12 ก.ย.67 ก่อนที่จะเริ่มเดินหน้าทำงานช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้

ขณะที่ การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2568 วาระที่ 2-3 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 5 ก.ย. 67 พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าโหวตผ่าน โดยคาดการณ์เสียงสนับสนุนไม่น่าจะต่ำกว่า 320 เสียง (ตามคะแนนเสียงพรรคร่วมรัฐบาล)

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด บอกว่า ภาวะดังกล่าวหนุนให้สุญญากาศทางการเมืองหายไป อีกทังรัฐบาลยังตุนงบประมาณไว้เต็มมือราว 3.5 แสนล้านบาท พร้อมหนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะถัดไปเดินหน้าต่อ โดยนโยบายที่คาดว่าจะออกมา และเกี่ยวข้องกับตลาดทุนโดยตรง คือ

1. คาดงบประมาณฯ ปี 2567 -68 ผ่านรัฐสภาฉลุยภายในเดือน ก.ย. 67 มองบวกต่อหุ้น CK -STEC- TASCO- BBL- SCC -SCCC

2. การปรับเปลี่ยนนโยบาย DIGITAL WALLET โดยเสนอปรับ แจกเงินสดแก่กลุ่มเปราะบาง-ผู้พิการก่อน 10,000 บาท/ราย ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ MTC-BAM -TIDLOR-TU- TFG GFPT -CPALL-CPAXT- BJC

3. การเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยการขยายความจุสนามบินสุวรรณภูมิ และการสร้าง ENTERTAINMENT COMPLEX ครบวงจร ส่วนหุ้นที่คาดได้ประโยชน์ คือ AWC -CENTEL MINT -ERW -CPN- AOT

4. เดินหน้ากองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง (VAYU1)

เดือน ก.ย. เริ่มเห็นตัวเลขแรงงานสหรัฐชะลอลง กดตลาดหุ้นโลกพลักกลับมาร่วงลงแรง -2.2%MTD เฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งสหรัฐฯ NASDAQ -3.6%MTD, NIKKEI -4.1% แต่ตลาดหุ้ไทยถือว่าแข็งแกร่งกว่า ตลาดหุ้นโลกมาก +0.5%MTD หลายๆ ปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยแข็งแกร่งกว่าหลายตลาดหุ้นในช่วงนี้ 

ทั้งค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่า การเมืองไทยกลับมาสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง และกองทุนวายุภักษ์ ที่คาดว่าจะประเดิมซื้อ 1 ต.ค. และทยอยเข้ามาเพิ่มเติมเรื่อยๆ ซึ่งคาดหวังเม็ดเงินจะขยับขึ้นไปอยู่ระดับ 1.5 แสนล้านบาท เข้ามาช่วยปกป้องและพยุงตลาดหุ้นไทยในช่วงต่อจากนี้

กลยุทธ์แนะนำสะสมหุ้นที่น่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ โดยคัดกรองจากหุ้นที่วายุภักษ์ถือเยอะ และมี ESG RATING “AAA” ประโยชน์จาก 2 ประเด็น คือ PTT- BCP- KTB- ADVANC- SCC-KBANK-CRC- CPF- SCGP-OR