เมื่อวันที่ 5 ก.ย. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่มีพระบรมราชการโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าได้ติดตามความเห็นทางการเมืองของประชาชนมาเป็นเวลานานพบว่า คนไทยอยากจะเห็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง ปัญหาของประเทศมีมากมาย แต่ถ้าจับหัวใจของปัญหาได้ และแก้ได้ตรงจุด ทันสถานการณ์บ้านเมืองก็จะได้รับความเชื่อมั่นทั้งจากประชาชนและนานาอารยประเทศ หัวใจของปัญหาทั้งมวล คือ รัฐธรรมนูญที่จะต้องมีที่มาจากประชาชน มีสาระที่เป็นธรรม เป็นประชาธิปไตย ที่สำคัญยึดโยงกับประชาชน วัฒนธรรมประเพณีของชาติ
นายชวลิต กล่าวอีกว่า แม้ทุกพรรคการเมืองจะรณรงค์หาเสียงที่จะเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน และแม้รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน จะกำหนดเป็นนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เวลาผ่านมา 1 ปี ก็ยังไม่มีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมของรัฐสภาแต่อย่างใด มีเพียงร่างแก้ไขรายมาตราของพรรคการเมืองฝ่ายค้านเท่านั้น ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่รัฐบาลที่ผ่านมา ไม่มีความจริงใจต่อประชาชน ที่สำคัญ ไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ทั้งจากการรณรงค์หาเสียงและการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จากสถานการณ์ดังกล่าว ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย เมื่อรัฐบาลเข้ามามีอำนาจ ก็ไม่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จโดยเร็ว เพราะถ้ามีรัฐธรรมนูญใหม่ มีกติกาใหม่ ก็ต้องมีการเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่ ซึ่งต้องอาจมีการยุบสภาก่อนหมดวาระเพื่อมีการเลือกตั้งภายใต้กติกาใหม่
นายชวลิต กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีปัจจัยเวลาบังคับ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 3 ปี ก็จะหมดวาระ ถ้ารัฐบาลของ น.ส.แพทองธารไม่นำประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วน การเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้าก็จะใช้กติกาเดิม คือ รัฐธรรมนูญปี 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง
“ผมอยากจะให้ประเด็นที่ผมคาดการณ์หรือวิเคราะห์ วิจารณ์ดังกล่าวข้างต้น เป็นการคาดการณ์ผิด แท้ที่จริงแล้วถ้ารัฐบาลมีจิตสำนึก ซื่อสัตย์ต่อการรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งที่ผ่านมา คนไทยก็จะได้รัฐธรรมนูญใหม่ กติกาใหม่ด้วยมือประชาชน เพื่อใช้ในการเลือกตั้งทั่วไปคราวหน้าอย่างทันการณ์ ก่อนรัฐบาลหมดวาระอย่างแน่นอน”นายชวลิต กล่าว