เมื่อวันที่ 5 ก.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ สน.ปทุมวัน และ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 จับกุมตัว นายรอลลี่ ซาบอลซ่า อายุ 49 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 484/2567 ลงวันที่ 25 พ.ค. 67 ความผิดฐาน “ลักทรัพย์ หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้หรือจำหน้าได้” โดยจับกุมที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจาก นายรอลลี่ ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 67 ต่อมาได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์เครื่องเพชรที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน โดยทำทีเข้าไปสอบถามและขอดูสินค้าบริเวณหน้าตู้กระจกร้าน และได้อาศัยจังหวะช่วงที่พนักงานให้บริการเผลอ ลักเอาสร้อยเพชรรอบคอ (สังวาลเพชรรอบคอ) น้ำหนัก 9.40 กะรัต ทองหนัก 20 กรัม มูลค่ากว่า 250,000 บาท และได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. สืบสวนพบว่า นายรอลลี่ ได้หลบหนีออกประเทศไทย หลังจากก่อเหตุเสร็จในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 ได้ร่วมกับ สน.ปทุมวัน ร่วมกันไล่กล้องวงจรปิดจนทราบผู้ก่อเหตุ กระทั่งต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 5 ก.ย. 67 ขณะเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจสอบจนพบว่า นายรอลลี่ ได้ทำการเดินทางเข้ามาประเทศไทย เพื่อจะมาก่อเหตุอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลัง จนสามารถจับกุมไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดจริง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนภัยไปยังร้านทอง ร้านเพชร หรือร้านขายเครื่องประดับ ให้ระมัดระวังลูกค้าที่แต่งตัวดูดี โปรไฟล์แน่น เหมือนนักธุรกิจ แฝงตัวมาในคราบมิจฉาชีพ อาศัยจังหวะที่ผู้ดูแลร้านเผลอ หรือไม่ระวังตัว แอบฉกไป ขอให้ผู้ประกอบการร้านค้าทุกท่าน เพิ่มความระมัดระวัง ขอดูบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตมาดูสินค้า ติดกล้องวงจรปิดที่มีความละเอียดสูง และติดสัญญาณแจ้งเตือนไปยังสถานีตำรวจใกล้เคียง.