วันที่ 4 กันยายน ที่ ฐานเรียนรู้การจัดการฟาร์ม ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ลงไปเยี่ยมชมแปลงเพาะปลูกเมล่อน สายพันธุ์ญี่ปุ่น ที่กำลังให้ผลผลิตสีเหลืองสุกสดใส พร้อมตัดเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นลูกแรก เพื่อเป็นปฐมฤกษ์ของฤดูการเก็บเกี่ยวเมล่อน ก่อนที่จะส่งเสริมขยายผลให้กับกลุ่มเกษตรกรคนรุ่นใหม่ต่อไป โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมเยี่ยมชมโรงเรือนเมล่อน ที่กำลังออกผลผลิต และร่วมกันชิมเมล่อน ที่มีรสชาติหวานกรอบ เป็นที่ถูกใจของนักชิมจำนวนมาก โดยเมล่อนสายพันธุ์นี้จะมีเนื้อสีส้ม หวาน กรอบ ผิวเรียบสีเหลืองทอง     

ทั้งนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินงานในโครงการศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ ฐานเรียนรู้การจัดการฟาร์ม โดยได้น้อมนำแนวทางพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่และการพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรมาดำเนินการและขยายผลสู่เกษตรกรและชุมชน โดยได้มีการจัดทำแปลงเรียนรู้ ทั้ง กล้วยไม้ พืชสมุมไพร แปลงกุหลาบตามพระเสาวนีย์ นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมการนำพืชเศรษฐกิจมาทดลองปลูกในฐานการเรียนรู้ เช่น เมล่อนญี่ปุ่น ที่มีความเหมาะสมสำหรับเพาะปลูก เพื่อมุ่งหวังให้เกษตรกรได้นำไปขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน     

เกษตรจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า เมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น สายพันธุ์เรดมูน มีผิวเรียบ สีเหลืองทอง หรือที่นิยมเรียกว่า เมล่อนสายน้ำปาย จะมีลักษณะเด่น กรอบ รสชาติหวานถึงหวานมาก ความหวาน 13-17 ค่า Brix อายุเก็บเกี่ยว 60-65 วัน ข้อใบห่าง ทนต่อโรคและแมลง เหมาะสำหรับแม่ฮ่องสอนเพื่อส่งเสริมเป็นเมล่อนสายน้ำปาย สำหรับแม่ฮ่องสอนซึ่งเป็นการเพาะปลูกในโรงเรือน ทำให้มีการควบคุมดูแลได้อย่างใกล้ชิด รวมทั้งระยะเวลาการเก็บเกี่ยวของเมล่อนที่จะออกสู่ท้องตลาดในราวเดือนกันยายน โดยในอนาคตตจะมีการเปิดตัวเมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่น สายพันธ์ุนี้จะมีลักษณะเนื้อสีส้ม หวาน กรอบ ผิวเรียบสีเหลืองทอง พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปต่อยอดในรูปแบบฟาร์มออร์แกนิก เพื่อเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป  สำหรับเมล่อนสามารถปลูกได้ทุกฤดูกาล มีผลผลิตตลอดปี จากเมล็ดพันธุ์เมล่อน ใช้เวลาประมาณ 75 วัน ก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ปัจจุบันเมล่อนมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แตกต่างจากเดิม ทั้งรูปร่าง กลิ่น รสชาติ รวมถึงความต้านทานโรค ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองผู้บริโภคและเกษตรกร เพื่อให้ได้เมล่อนที่มีคุณภาพ และมีราคาที่ดี โดยเมล่อนแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะเนื้อที่ต่างกัน มีทั้งแบบเนื้อกรอบและเนื้อนุ่ม ซึ่งในประเทศไทยจะนิยมรับประทานเมล่อนที่มีเนื้อกรอบมากกว่าเนื้อนุ่ม