เมื่อวันที่ 3 ก.ย.รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับหนุ่มผู้ช่วยพยาบาลที่ไปร้องกับสายไหมต้องรอด ถึงพฤติกรรมของภรรยาที่ยังมีทะเบียนสมรสกันอยู่ แต่จับได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าไปมีชู้กับผู้ชายคนแล้วคนเล่า
นายแห้ง หนุ่มผู้ช่วยพยาบาล เล่าว่า คบหากับ ภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาล ซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2560 ก่อนจะตกลงแต่งงานกันช่วง มี.ค. 63 และมีลูก คลอดลูกตอนปี 2563 แต่พอปลายปี 2563 เห็นว่าภรรยากลับไปพูดคุยนัดเจอกับ นายเอ แฟนเก่า(ชู้คนที่ 1) เคยเจอแฟนเก่าเขามาหาที่โรงพยาบาล ครั้งนั้นตนพูดกับทั้งฝ่ายชาย และพูดกับภรรยา ว่าขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกัน เพราะเราแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว ฝ่ายชายเขาก็มีลูกมีเมียแล้ว ครั้งนั้นก็เคลียร์กันจบไป
ย้อนกลับไปช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่กลางปี 2563 ภรรยาอ้างว่า มีนายบี เป็นผู้ชายอีกคน (ชู้คนที่ 2) คนรู้จักติดต่อหางานเสริมให้ ไปเป็นผู้ช่วยที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง โดยคุณแห้งบอกว่า ภรรยาจะแต่งตัวสวยออกจากบ้านตลอด ซึ่งพี่สาวของภรรยาเสริมว่า งานที่ว่านี้ เขาออกจากบ้านไป 3-4 ชั่วโมง แล้วจะกลับมาพร้อมเงินสดเป็นปึกๆ ครั้งหนึ่งจะได้เงินกลับมาเกือบหมื่นบาท เรายังสงสัยว่ามันคืองานอะไร ทำไมได้เงินเยอะขนาดนี้ พ่อของภรรยา บอกว่า ได้โทรถามนายบี ว่าเขาติดต่อลูกสาวเราไปทำงานอะไร เพราะคนๆ นี้เขาเคยเป็นแฟนเก่าอีกคนของลูกสาว แต่นายบีบอกว่า ตั้งแต่ลูกสาวของตนตั้งท้อง นายบีก็ไม่เคยติดต่อหรือมายุ่งอะไรด้วยอีก
คุณแห้งเล่าต่อไปถึง นายซี ชายชู้คนที่ 3 เป็นคนที่หนักที่สุด เป็นเพื่อนร่วมงานของภรรยา มีภรรยาของนายซี ส่งรูปมาให้ดู ว่าภรรยาของตนไปอยู่กับสามีของเขา ตอนที่เห็นรูปตนอยู่ในห้องผ่าตัด เห็นรูปแล้วถึงมือชา ชักเกร็ง หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ ภรรยาของนายซีบอกว่า เดี๋ยวภรรยาของคุณแห้งเขาจะซื้อของขวัญมาให้นายซี ให้รอดูได้เลย ซึ่งไม่นานต่อมา นายซีก็โพสต์รูปขอบคุณของขวัญ ที่ภรรยาของตนซื้อให้เขาจริงๆ ภรรยาของนายซี ยังส่งรูปที่ทั้งสองคนไปอยู่ด้วยกัน กอด หอมกัน มีรูปถุงยางอนามัยใช้แล้วเป็นหลักฐานมัดตัวอีกด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้คุณแห้งถึงกับคิดสั้น อยากจบชีวิตตัวเอง แต่สุดท้ายก็มีคนเข้ามาห้ามไว้ทัน และนึกถึงลูก จึงเอาตัวเองกลับมาได้ และทำการตกลงกับภรรยา โดยมีพ่อตา แม่ยาย อยู่เป็นพยานด้วยว่า หลังจากนี้เราจะอยู่ทำหน้าที่พ่อและแม่ของลูกให้ดีโดยที่จะยังไม่หย่า เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกมีปัญหาครอบครัว
จนกระทั่ง ช่วงธันวาคม 2565 แฟนก็กลับมามีพฤติกรรมแบบเดิมอีก แต่ครั้งนี้แฟนได้ให้ทนายความ นัดมาคุย ซึ่งตนเองก็เอะใจ เพราะเสียงของทนายความคุ้นเหมือนเคยได้ยินแฟนคุยในห้องน้ำที่คอนโด และตอนนัดคุยกันตนก็ถามจะฟ้องหย่าตนในประเด็นอะไร แฟนก็บอกว่า ตนคุกคามทางเพศลูกสาว ซึ่งตนเองก็แย้งไปว่าเป็นพ่อ เลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เด็กจนโตทั้งอาบน้ำและลูกเพิ่งอายุไม่กี่ขวบตนก็ต้องสอนวิธีการทำความสะอาดร่างกายในฐานะคนเป็นพ่อ และทำงานด้านการแพทย์ ซึ่งตนก็แย้งไป
ตนก็ถามว่าผู้ชายที่มา มาช่วยเป็นทนายจริงหรือไม่ ทางภรรยาของตนและผู้ชายคนนั้นก็ยืนยันว่าเป็นทนายกับลูกความกันเท่านั้น ตนไปสืบหาประวัติกลับไม่พบทนายความชื่อนี้ จึงเก็บความสงสัยไว้ในใจ
จนกระทั่งช่วงกุมภาพันธ์ ปี 67 พ่อกับแม่ของแฟนก็เห็นว่าแฟนพาทนายคนนี้มานอนที่บ้าน ซึ่งตนก็ตกใจ และช่วงมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงวันเกิดของตน ก็เห็นว่าแฟนไปเที่ยวเมืองจีนกับชายชู้คนที่ 5 ถ่ายรูปลงโซเชียลกันอย่างเปิดเผยทั้งที่ยังไม่ได้หย่า จนเอาลูกไปอยู่ที่บ้านของชู้คนที่ 5 ซึ่งตนพยายามขอพบลูกแต่ก็ถูกกีดกัน รวมถึงพ่อตาแม่ยายก็ถูกกีดกันไม่ให้พบหลาน ซึ่งแฟนก็พูดว่าอย่ามายุ่งกับตนและครอบครัวใหม่
ด้วยความเป็นพ่อ และตายายจึงแอบไปดูหลานแต่ก็ถูกข่มขู่ กีดกัน อ้างรู้จักกับคนใหญ่คนโตในจังหวัดอยุธยาและผู้กำกับสน.ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ตนเองและพ่อตาแม่ยายรู้สึกกลัวและกังวล
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมาลูกสาวโทรมาหาพ่อตาแม่ยายบอก ตนเองและลูกสาวอายุ 4 ขวบถูก ชายชู้คนที่ 5 ทำร้ายเนื่องจากเขาจับได้ว่า ภรรยาของตนไปมีชู้อีกคนซ้อนกันอีก ซึ่งชายที่คบซ้อนนี้ เคยเป็นชู้คนที่ 4 คือคนที่เคยถูกไล่ออกจากโรงพยาบาลนั่นเอง และยังมาทราบอีกว่า ภรรยาของตนกำลังท้องกับชู้คนที่ 5 ได้ 2 เดือน
ขณะที่ เฟิร์น ภรรยา จู่ๆ ก็โทรเข้ามาในรายการ ขอชี้แจงในมุมของตัวเอง ยืนยันว่าคนในครอบครัวรู้ดีว่าเหตุผลที่ตนเลิกกับแห้งเพราะอะไร ตนเป็นแม่คน รู้ดีว่าการทำหน้าที่แม่คนต้องทำยังไง ยืนยันว่าที่ตัดสินใจออกมาอยู่กับทนาย เพราะต้องการมีชีวิตที่ดี แห้งไม่สามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ แล้วยังมีพฤติกรรมสอนลูกในลักษณะที่ตนรับไม่ได้
ตนคงไม่สามารถอธิบายทุกอย่างได้หมด แต่อีกฝ่ายเขารู้ตัวดีทุกอย่าง แล้วที่พี่สาวกับพ่อแม่ของตนออกมาเข้าข้างแห้ง ก็อยากให้ไปถามว่า พ่อซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงกับพี่สาวของตน เขามีอะไรกันเกินเลยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม พี่สาวของเฟิร์น ยืนยันว่า ตนมีแฟนเป็นผู้หญิง คบมาจะ 10 ปีแล้ว และทางแฟนของพี่สาวก็บอกว่า เฟิร์นเคยมาบอกว่าให้ระวังพ่อเลี้ยงไว้ แฟนก็เลยไปติดกล้องวงจรปิดในห้องนอนไว้ตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งก็ไม่เคยเจอพฤติกรรมอะไรแบบนั้นเลย
สุดท้ายทนายแก้วยืนยันว่า ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรต่างๆนานา แต่การไปคบหากับคนอื่น ในตอนที่ยังมีทะเบียนสมรสอยู่มันทำไม่ได้ เป็นเรื่องผิดแน่นอน และทางแห้งก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องชู้ได้แน่นอน ซึ่งทางแห้งก็บอกว่าจะหย่ากับเฟิร์นให้อย่างแน่นอน ไม่สามารถกลับไปเป็นครอบครัวกันได้อีก