สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ว่า นายเดวิด แลมมี รมว.การต่างประเทศของสหราชอาณาจักร กล่าวต่อสภาสามัญว่า สหราชอาณาจักรจะระงับใบอนุญาตการส่งออกอาวุธ 30 ฉบับ จากทั้งหมด 350 ฉบับ ภายหลังการตรวจสอบการดำเนินการของอิสราเอล ในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส

แลมมี กล่าวเพิ่มเติมว่า การแบนบางส่วน ครอบคลุมถึงสิ่งของที่อาจถูกนำไปใช้ในความขัดแย้งในฉนวนกาซา ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่, เฮลิคอปเตอร์ และโดรน

“ผมรู้สึกเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า ผลการประเมินที่ผมได้รับ ทำให้ผมไม่สามารถสรุปอะไรได้เลย นอกจากว่า การส่งออกอาวุธของสหราชอาณาจักรบางส่วนไปยังอิสราเอล มีความเสี่ยงที่ชัดเจนว่า อาวุธข้างต้นอาจถูกนำไปใช้เพื่อดำเนินการหรืออำนวยความสะดวก ให้เกิดการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง” แลมมี กล่าวกับสมาชิกสภาสามัญ

นอกจากนี้ แลมมียังเน้นย้ำว่า การระงับการส่งออกอาวุธ ไม่มีผลกระทบสำคัญต่อความมั่นคงของอิสราเอล และไม่ได้เป็นการตัดสินว่าอิสราเอลละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศหรือไม่ เนื่องจากสหราชอาณาจักร ไม่ใช่ศาลระหว่างประเทศ อีกทั้งสหราชอาณาจักร ยังคงสนับสนุนให้อิสราเอลใช้สิทธิในการป้องกันตัวเอง และรัฐบาลลอนดอนจะตรวจสอบสถานการณ์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า เขารู้สึก “ท้อใจอย่างมาก” เมื่อทราบถึงการระงับการส่งออกอาวุธของสหราชอาณาจักร

ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่ม ระบุว่า การดำเนินการของรัฐบาลลอนดอน “ยังไม่มากพอ” และถือเป็นการยอมรับที่ล่าช้าต่อหลักฐานที่ชัดเจนและน่ากังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับอาชญากรรมสงครามของอิสราเอล ในฉนวนกาซา.

เครดิตภาพ : AFP