เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นายอิศรากรณ์ สุวรรณทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียวาณิช จำกัด ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี สร้างพระอุโบสถ วัดวังรีบุญเลิศ ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีกำหนดการถวายผ้าพระกฐิน ในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2567 เวลา 10.00 น. ซึ่งท่านใดมีจิตศรัทธาสามารถร่วมงานบุญได้ตามวันและเวลาดังกล่าว สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ พระครูประจักษ์ธรรมวาที เจ้าอาวาสวัดวังรีบุญเลิศ ที่โทร.089-472-3272

สำหรับวัดวังรีบุญเลิศ นั้นอดีตเป็นเพียงสำนักสงฆ์ในพื้นที่ ตำบลดุสิต อำเภอถ้ำพรรณรา จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมกันทะนุบำรุง ศาสนสถานต่างๆ ขึ้น และใช้เป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นแหล่งพบปะ ประกอบกิจกรรม งานบุญ สืบสานวัฒนธรรม ในโอกาสต่างๆ ของคนในพื้นที่ กระทั่ง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประกาศให้เป็นวัด และเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2567 เพิ่งมีการฉลองซุ้มประตูทางเข้าวัดอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

ส่วนงานบุญกฐินวัดวังรีบุญเลิศ ประจำปีนี้ ได้จัดขึ้นเพื่อหารายได้สร้างพระอุโบสถ ถวายแด่สงฆ์ เพื่อเป็นที่ทำสังฆกรรมหรือพิธีของสงฆ์ เนื่องจากพระภิกษุทุกรูปต้องชำระศีลของตนให้บริสุทธิ์ก่อนเข้าโบสถ์ นอกจากนี้ให้ผู้ใคร่ในการปฏิบัติธรรมได้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะใช้เป็นที่สำหรับบวชพระ ในพระวินัยกำหนดว่า พระต้องบวชในโบสถ์ บวชนอกโบสถ์ไม่ได้ การสร้างพระอุโบสถจึงถือเป็นสิ่งที่พระบรมศาสดาทรงยกย่อง เพราะเป็นเครื่องชี้บ่งว่า พระพุทธศาสนาจะปักหลักมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง เป็นที่พึ่งของมนุษย์และเทวดา นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่พุทธศาสนิกชน การมีโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ แสดงว่า พระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองในอาณาบริเวณนั้น

ดังนั้นผู้ที่มีส่วนในการสร้างพระอุโบสถ วัดวังรีบุญเลิศ ครั้งนี้ อานิสงส์อันไพศาลก็ย่อมบังเกิดขึ้น มากมายพรรณนาไม่หมด อาทิ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย พละ คือ มีพละกำลัง มีเรี่ยวแรง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย สุขะ คือ มีความสุขกาย สุขใจอยู่เป็นนิจ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย ปฏิภาณ คือ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ปฏิภาณว่องไว เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย อายุ คือ มีอายุขัยยืนยาว เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย วรรณะ คือ มีผิวพรรณวรรณะผ่องใส เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่ผู้พบเห็น เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย โภคทรัพย์สมบัติ เพราะได้บริจาคทานไว้ในพระพุทธศาสนา เป็นที่รักของมนุษย์และเทวาทั้งหลาย เมื่อตายแล้ว ย่อมไปสู่โลกสวรรค์ ทำให้บรรลุมรรค ผล นิพพาน และไปถึงที่สุดแห่งธรรมได้โดยง่าย ฯลฯ.