จากกรณีที่นายกฤษฎา อินทามระ อาชีพทนายความ ในฐานะทายาทสกุลอินทามระ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร (กทม.) และพวก ต่อศาลปกครองกลาง ข้อหาละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ในการดำเนินการเปลี่ยนชื่อถนนอินทามระ มาเป็นถนนสุทธิสารวินิจฉัยทั้งเส้น ตั้งแต่ปี 2547 ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามประวัติทะเบียนถนน พ.ศ. 2503 อีกทั้ง กทม.ไม่เคยเคยรวบรวมข้อมูลเรื่องนี้เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2560 ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้ กทม.และพวก พิจารณาดำเนินการในเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อถนนและซอยบริเวณถนนสุทธิสารวินิจฉัย และซอยอินทามระ ทั้ง 59 ซอย ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและหลักเกณฑ์ของกฎหมายต่อไป ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุดนั้น
เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นางละไม อัศวเลิศศักดิ์ ผอ.สำนักงานปกครองและทะเบียน กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด กรณีเปลี่ยนชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัย เป็นถนนอินทามระทั้งหมด ว่า คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่ อ.1291/2555 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.430/2560 เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ (อุทธรณ์คำพิพากษา) ได้พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้า ประกอบด้วย กทม., ผู้ว่าฯ กทม., ปลัด กทม., ผอ.เขตพญาไท และ ผอ.เขตดินแดง ดำเนินการในเรื่องการกำหนดและเปลี่ยนแปลงชื่อถนนและซอย บริเวณถนนสุทธิสารวินิจฉัยและซอยอินทามระทั้ง 59 ซอย ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและหลักเกณฑ์ของกฎหมาย
นางละไมกล่าวว่า กทม. ได้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด โดยมีหนังสือถึงสำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครอง เพื่อหารือแนวทางการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้ข้อสรุปว่า เมื่อศาลฯ กำหนดคำบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งห้าพิจารณากำหนดและเปลี่ยนแปลงชื่อถนนและซอยบนถนนสุทธิสารวินิจฉัยและซอยอินทามระทั้ง 59 ซอย ดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (กทม.) จึงดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ เพื่อให้ได้ผลพิจารณา หรือดำเนินการต่อไป ซึ่งเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ศาลฯ ไม่อาจก้าวล่วงได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลางตั้งชื่อถนน ตรอก ซอย ฯลฯ ได้มีคำสั่งที่ 1/2560 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2560 ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เพื่อดำเนินการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่เขตพญาไทและเขตดินแดง ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามข้อ 15 (1) แห่งระเบียบสำนักทะเบียนกลางว่าด้วยการจัดทำทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2535
โดยผลการสำรวจของสำนักงานเขตพญาไท และสำนักงานเขตดินแดง เกี่ยวกับการกำหนดชื่อถนนที่ต่อเนื่องกัน คือ ถนนสุทธิสารวินิจฉัยกับถนนอินทามระ สรุปว่า ประชาชนร้อยละ 78.03 มีความประสงค์ใช้ชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัย และร้อยละ 18.63 ใช้ชื่อถนนอินทามระ จากผลสำรวจดังกล่าว จึงทำให้คงชื่อเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่ง กทม.ได้รายงานผลการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้สำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองทราบ ตามหนังสือกรุงเทพมหานคร ด่วนที่สุด ที่ กท 0405/177 ลงวันที่ 15 มกราคม 2561 แล้ว.