เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ชั้น 4 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ น.ส.น้ำผึ้ง (สงวนนามสกุล) โมเดลลิ่ง อ้างรู้จักศิลปินชื่อดังหลอกผู้เสียหายอ้างสามารถพาเข้าวงการได้ ก่อนหลอกผู้เสียหายโอนเงินค่ามัดจำวางประกันงาน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกกับ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.รชตโชค ลีวานิชกุล ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.1 พ.ต.ต.วัชรพงษ์ สีขน สว.กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.1

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 31 ก.ค. เพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ถูก น.ส.น้ำผึ้ง หลอกอ้างว่าสามารถแนะนำหรือพาเข้าวงการบันเทิงโดยมีอุบายให้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดัง อาทิ เช่น ลิซ่า และ เบลล่า ก่อนหลอกให้โอนเงินค่ามัดจำวางประกันงาน ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก จึงเข้ามาร้องทุกข์กับ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ต่อมาได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายพบว่า มีความเสียหายหลายคนละหลายท้องที่ รวมยอดเสียหายกว่า 8 ล้านบาท จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหารายดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 2 ก.ย. น.ส.น้ำผึ้ง เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาตามหมายเรียกในฐานความผิด ดังนี้ 1. ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จอันมิได้กระทำต่อประชาชนแต่เป็นเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง.