ภายหลังปิดหีบเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี (นายก อบจ.) ซึ่งได้มีการนับคะแนน โดยผลอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่า นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา หรือ “กำนันตุ้ย” ผู้สมัครหมายเลข 2 อดีตนายก อบจ.ราชบุรี มีคะแนนทิ้งห่าง นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ “หวุน” ผู้สมัครหมายเลข 1 จากพรรคประชาชน

ต่อมา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หรือ หวุน ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี พรรคประชาชน และ นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน แถลงยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี

ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์

โดย นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่ออกมาใช้สิทธิ ขอบคุณประชาชนชาวราชบุรีที่ให้ความไว้วางใจผม ซึ่งคะแนนตอนนี้เมื่อเทียบกับปี 2563 เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แสดงว่าการทำงานของเราในพื้นที่อย่างหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมาออกดอกออกผลแล้วว่า คนเปิดใจให้เรามากขึ้น แสดงถึงความคิดกับคนที่เห็นด้วยกับนโยบายของเรา แม้เราอาจยังไม่ชนะเลือกตั้ง นายก อบจ. แต่พรุ่งนี้ยังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไป เพื่อทำนโยบายพัฒนา จ.ราชบุรี ให้ดีขึ้นกว่าเดิม

นายชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ขอบคุณทีมงาน ไม่ว่าพรรคประชาชน ส.ส. แกนนำ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หัวหน้าพรรคประชาชน ขอบคุณทีมงาน โดยเฉพาะอาสาสมัคร เครือข่ายพรรคประชาชน หรืออดีตพรรคก้าวไกล ที่พยายามทำงานในพื้นที่มาตลอด ความมุ่นมั่นของทีมอาสาได้ส่งผลต่อวันนี้ว่าเราได้คะแนนเพิ่มเกือบเท่าตัว หวังว่าการทำงานมุ่งมั่นที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนชาวราชบุรีจะทำให้พี่น้องเปิดใจรับเราและให้โอกาสเราในอนาคตมากขึ้น หวังว่าในอนาคตเราจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งในพื้นที่ราชบุรี

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ออกมาใช้เสียง ทุกๆ การเลือกตั้งต้องการโอกาสสร้างการเปลี่ยนเแปลง แม้วันนี้จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิยังไม่เป็นข้อสรุป แต่เท่าที่ทราบข่าวพบว่าพี่น้องชาวราชบุรีที่ทำงานอยู่ไกลได้เดินทางกลับมาใช้สิทธิ นี่คือความสำเร็อย่างหนึ่ง ที่ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาชน อย่างที่คุณชัยรัตน์ บอกว่าจำนวนผู้ให้การสนับสนุนพรรคประชาชนในปัจจุบัน เมื่อเทียบกับคณะก้าวหน้า คะแนนเราเพิ่มเกือบเท่าตัว แม้ยังนับคะแนนไม่เสร็จก็ตาม

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า นี่เป็นหนึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า การรณรงค์อย่างแข็งขัน การทำงานในพื้นที่อย่างเข้มข้น ทำให้ประชาชนให้ความสำคัญกับการเมืองท้องถิ่น ประชาชนออกมาใช้สิทธิ มอบความไว้วางใจให้พวกเรามากขึ้น ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน เรายังมีความรับผิดชอบในการผลักดันนโยบายต่างๆ ผ่านการเมืองระดับประเทศ ไม่วาจะเป็นการทำหน้าที่ในสภา ภารกิจที่ใกล้ถึงคือการอภิปรายงบ 2568 วารที่ 2-3 รวมถึงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของ ครม.ชุดใหม่ ยังมีอีกหลายภารกิจที่เราต้องทำงานอย่างเข้มข้นต่อไป.