นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า  เปิดเผยว่า  ดีป้า ได้ สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ไตรมาส 2 ประจำปี 2567 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Device) กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service) กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication) โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 52.4 ปรับตัวลงจาก 54.1 ของไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่น โดยปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านปริมาณการผลิตฯ ด้านคำสั่งซื้อฯ ด้านการจ้างงาน และด้านการลงทุนปรับลดลง ขณะที่ปัจจัยด้านต้นทุนผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า

หากแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า 3 กลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ อยู่ที่ระดับ 53.0 กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อยู่ที่ระดับ 52.8 และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 54.0 ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม มีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่าระดับ 50 คืออยู่ที่ระดับ 48.5 และ 49.5 ตามลำดับ

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า  ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการยังคงกังวลเกี่ยวกับการเข้าถึงแหล่งทุน ขณะที่ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองและการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้ามีส่วนให้กำลังซื้อในประเทศหดตัว กลับกัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องช่วยพยุงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับการลงทุนในศูนย์ข้อมูลและคลาวด์ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่น

“ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐปรับแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล สร้างความชัดเจนในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน จัดทำฐานข้อมูลกลางให้ภาคเอกชนและภาคประชาชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ สนับสนุนการจับคู่ธุรกิจรวมถึงส่งเสริมการเปิดตลาดในต่างประเทศ นอกจากนี้ ภาครัฐควรส่งเสริมการใช้งานและการลงทุนด้านดิจิทัลด้วยมาตรการทางภาษี” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว