เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาล ร่วมกับ นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 ทำการจับกุม น.ส.ดาริกา หรือ นุ้ย ชาวจ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่จ.1124/2567 ลงวันที่ 22 ส.ค.67 ฐาน “..ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน…” โดยจับกุมได้ ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าย่าน เขตวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 30 ส.ค.67 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ม.ค. 65 น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ได้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางแบรนด์เนม จากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรมของ น.ส.นุ้ย ผู้ต้องหา และได้เห็นเว็บไซต์ beauticity.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายสินค้าของผู้ต้องหา ซึ่งมีสินค้าราคาถูกกว่าหน้าร้านปกติ ด้วยความสนใจจึงติดต่อเจรจาซื้อขายสินค้ากันในไลน์ส่วนตัว จนกระทั่ง น.ส.นุ้ย เริ่มชักชวนให้ น.ส.เอ ซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อเอาไปขายเอง โดยจะเอาสินค้าจากพี่สาวมาส่งให้

ระยะแรกซื้อขายกันมูลค่าหลักหมื่นบาท ทาง น.ส.นุ้ย ส่งสินค้าตามที่ตกลงปกติ กระทั่งมีการชักชวนให้ซื้อสินค้าล็อตใหญ่กว่าเดิม โดยสั่งซื้อสินค้าเป็นเงินกว่า 1.8 ล้านบาท ตอนแรกนำสินค้ามาให้ก่อน 5.7 แสนบาท แต่ภายหลังกลับเงียบหายไม่เอาของอีกกว่า 1.2 ล้านบาทมาส่งให้ ทั้งที่ชำระค่าสินค้าไปหมดแล้ว จึงนำเรื่องไปแจ้งความดำเนินคดียัง สน.โคกคราม จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปยังประชาชนว่า การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ แม้จะมีความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา แต่ก็แฝงไปด้วยมิจฉาชีพ เราจึงต้องใช้ “สติ” พิจารณาตรวจสอบและเปรียบเทียบราคา รวมถึงเลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ มีการเก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ขาย ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่า เป็นบัญชีของมิจฉาชีพซึ่งติดแบล็คลิสต์ เคยกระทำผิดกฎหมายมาแล้วด้วยหรือไม่.