สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ว่าคณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ค้นพบว่า แมงกะพรุนสามารถควบคุมทิศทาง และว่ายน้ำตามทิศทางเฉพาะอย่างน่าทึ่ง


การติดตามแมงกะพรุนหลายพันตัวในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์จำแนกรูปแบบการว่ายแบบมีทิศทางชัดเจน สวนทางกับการเคลื่อนที่แบบสุ่ม


ผลการศึกษาซึ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านวารสารเคอร์เรนต์ ไบโอโลจี ระบุว่า แมงกะพรุนว่ายน้ำออกห่างจากชายฝั่งอย่างจริงจัง และสวนทางกับทิศทางของคลื่นความโน้มถ่วงพื้นผิว ซึ่งการเคลื่อนที่อย่างตั้งใจนี้มีความเร็วราว 10 เซนติเมตรต่อวินาที ช่วยให้แมงกะพรุนอยู่ห่างจากชายฝั่งและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต


แม้รูปแบบการว่ายน้ำอาจหลากหลายตามสายพันธุ์ของแมงกะพรุน และสภาพแวดล้อมทางทะเล แต่การศึกษานี้เน้นย้ำความสำคัญข องการควบคุมทิศทางเชิงรุกในหมู่แมงกะพรุน โดยน่านน้ำที่มีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงแรง แมงกะพรุนอาจเลือกว่ายทวนกระแสน้ำ มากกว่าว่ายน้ำตามคลื่นเพื่อเลี่ยงการโดนซัดเข้าฝั่ง


คณะนักวิจัยสำทับว่า ความเร็วและทิศทางสุดท้ายของการเคลื่อนที่ของแมงกะพรุนได้รับอิทธิพลจากการว่ายน้ำของตัวมันเอง กอปรกับกระแสน้ำและคลื่นที่พัดผ่าน ซึ่งนี่หมายความว่าแมงกะพรุนจำนวนมากจะลงเอยด้วยการถูกพัดขึ้นบกและตายในท้ายที่สุด แม้พวกมันพยายามควบคุมทิศทางแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ การทำความเข้าใจรูปแบบการว่ายน้ำของแมงกะพรุนอาจมีนัยสำคัญต่อสิ่งปลูกสร้างริมชายฝั่ง เช่น โรงไฟฟ้าและโรงแยกเกลือออกจากน้ำ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากปรากฏการณ์แมงกะพรุนเบ่งบาน ( jellyfish bloom ) โดยการคาดการณ์การมาถึงของแมงกะพรุนได้ อาจช่วยให้สถานที่เหล่านี้ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อลดผลกระทบ.

ข้อมูล-ภาพ : XINHUA