การประชุมสมัชชาสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย (AVC หรือ เอวีซี) สมัยที่ 25 ที่โรงแรมแกรนด์โฟร์วิง คอนเว็นชั่น กรุงเทพ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.67 โดยมี นางริตา ซูโบโว ประธาน AVC และ ดร.อารี กราซา ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ร่วมกันเป็นประธานการประชุม

สำหรับวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งประธาน AVC คนใหม่ แทนประธานคนเก่าที่ได้หมดวาระลงในปี 2024 ผลปรากฏว่า รามอน ซูซารา นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งชาติฟิลิปปินส์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธาน AVC คนใหม่ หลังจากได้รับการโหวด 48 เสียง จากสมาชิกทั้งหมด 65 ประเทศ (ขาดประชุม 2 เสียง) โดย รามอน เอาชนะ อาลี กาเน็ม อัลกูวารี นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งกาตาร์ ไปแบบขาดลอย 48 ต่อ 15 เสียง

รามอน ซูซาร่า นับเป็นประธาน AVC คนที่ 9 และเป็นชาวฟิลิปปินส์คนที่ 2 ที่เข้ารับตำแหน่งนี้ โดยจะดำรงตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลา 4 ปี โก่อนหน้านั้น นีเมสซิโอ ยาบัท เป็นชาวฟิลิปปินส์คนแรก ที่เข้ารับตำแหน่งประธาน AVC ระหว่างปี 1976-1979

รามอน จากฟิลิปปินส์ แสดงวิสัยทัศน์อันโดดเด่น 10 ข้อ ซึ่งเด่นๆ คือจะพยายามทำให้วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่นิยมชมชอบมากที่สุดติด 1 ใน 5 ของเอเชัยย, มุ่งมั่นสร้างความเสถียรด้านการเงินการตลาดของ AVC และลิขสิทธิ์ถ่ายทอดตามกรอบงานที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสม ผ่านการสนับสนุนของวอลเลย์บอลเวิลด์ (Volleyball World) รวมทั้งจะสนับสนุนทีมชาติของทุกประเทศสมาชิก และประเทศสมาชิกโดยรวม ให้มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากโครงการการพัฒนา Empowerment ของ FIVB ซึ่งตนเป็นเลขานุการอยู่ด้วย และที่โดดเด่นมากที่สุด คือความพยายามที่จะผลักดันให้มีการสร้างสำนักงานใหญ่ AVC อย่างถาวรในประเทศไทย โดยตนมองว่าไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาวอลเลย์บอลทั้งวอลเลย์บอลในร่มและชายหาด

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า FIVB ได้เลือกให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ในปี 2025 แล้ว ซึ่งจะมี 32 ชาติ มาร่วมชิงชัยในรอบสุดท้าย อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ยังแบ่งรับแบ่งสู้ เนื่องจากการจัดการแข่งขันรายการนี้ ใช้งบประมาณสูง ยังต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลก่อน รวมทั้งมีการยืนยันด้วยว่า “โค้ชอ๊อต” นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร อุปนายกสมาคมฯ จะกลับมาคุมทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย อีกครั้งด้วย.